ไครี เออร์วิง การ์ดเจ้าปัญหาของ บรู๊กลิน เน็ตส์ ทำเรื่องเซอร์ไพรส์ด้วยการขอเทรดออกจากทีมในตลาดผู้เล่นรอบนี้เลย ท่ามกลางความสนใจจาก แอลเอ เลเกอร์ส และไมอามี ฮีต
สำหรับ เออร์วิง เหลือสัญญากับ เน็ตส์ เป็นที่สุดท้ายหลังใช้อ็อปชั่นผู้เล่นมูลค่า 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนมิถนายนที่ผ่านมา และทำให้เขากำลังกลายเป็นฟรีเอเยนต์ในฤดูกาลหน้า
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เน็ตส์ ได้พยายามเปิดเจรจาในการต่อสัญญากับ เออร์วิง ออกไปตั้งแต่ช่วง 3-4 สัปดาห์ก่อน และทางเอเยนต์ของ เออร์วิง ก็ระบุว่าการพูดคุยนั้นดำเนินไปได้ด้วย และผู้เล่นวัย 30 ปีรายนี้ก็ต้องการอยู่กับทีมต่อไปเนื่องจาก บรู๊กลิน คือเมืองเกิด
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการเจรจาระหว่างทางฝั่ง เน็ตส์ กับ เออร์วิง กลับหยุดชะงักไปดื้อๆ เนื่องจาก เน็ตส์ ยื่นข้อเสนอว่าพร้อมจะขยายสัญญา เออร์วิง ออกไปแต่เจ้าตัวต้องพาทีมไปถึงแชมป์ของฤดูกาลนี้ให้ได้ ซึ่งทางฝั่งของ เออร์วิง มองว่า เป็นข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผล จึงหยุดการพูดคุย
จนล่าสุด “ดิ แอธเลติก” รายงานว่า เออร์วิง ได้ขอแจ้งไปยังสโมสรในการขอเทรดออกจาก เน็ตส์ ก่อนตลาดผู้เล่นรอบนี้จะปิดตัวลงในวันที่ 10 ก.พ. พร้อมยืนยันว่า การที่เขาไม่ต่อสัญญานั้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องเงิน แต่เกิดจากการที่ไม่ชอบใจข้อเสนอ และแม้หากได้เงินในระดับมากสุดของสัญญาก็จะไม่อยู่กับทีมอีกต่อไปแล้ว
โดยการขอเทรดออกจากทีมดังกล่าวของ เออร์วิง สร้างความประหลาดใจให้กับคนในทีมของ เน็ตส์ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับ เควิน ดูแรนต์ ฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์
ขณะที่ “เบน ฟอร์กส” ผู้สื่อข่าวคนดังรายงานว่า มีหลายทีมที่สนใจเซ็นสัญญา เออร์วิง ไปร่วมทัพนั้นมีถึง 8 สโมสร แต่ทีมเต็งที่จะคว้าตัวผู้เล่นวัย 30 ปีรายนี้ นั่นก็คือ แอลเอ เลเกอร์ส, ไมอามี ฮีต, ดัลลัส แมฟเวอริกส์ และฟีนิกซ์ ซันส์
ทั้งนี้ เออร์วิง ย้ายจาก บอสตัน เซลติกส์ มาอยู่กับ เน็ตส์ เมื่อปี 2019 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวมักจะสร้างปัญหาให้กับทีมอย่างต่อเนื่องทั้งการที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนโควิด-19 จนส่งผลให้ชวดลงสนามเกมในบ้านเมื่อซีซั่นที่แล้ว รวมถึงการที่ไปแชร์โพสต์ของภาพยนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการโจมตีชาวยิว จนโดนแบนห้ามลงสนาม รวมถึงการโดนไนกี้ถอดออกจากการเป็นสปอนเซอร์ เป็นต้น