ไครี เออร์วิง การ์ดเจ้าปัญหา ดัลลัส แมฟเวอริกส์ เปรยว่าเขามีความคิดที่จะย้ายจากทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลียตามแผ่นดินเกิด
โดย เออร์วิง ลงรับใช้ทีมชาติสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ชุดยู-18 และช่วยทีมคว้าแชมป์ ฟีบา อเมริกาส์ ยู-18 แชมเปียนชิพ ก่อนเลื่อนขั้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ และพาทัพยัดห่วงมะกันซิวแชมป์โลกในปี 2014 พร้อมได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่า หรือเอ็มวีพีของทัวร์นาเมนต์ หลังทำสถิติเฉลี่ย 12.1 แต้ม และ 3.6 แอสซิสต์ต่อเกมจากการลงสนาม 9 แมตช์ รวมถึงทำ 26 แต้มในเกมรอบชิงชนะเลิศด้วย นอกจากนั้น เออร์วิง ยังได้รับเลือกให้รับรางวัลนักกีฬาบาสเกตบอลชายแห่งปีของสหรัฐอเมริกาในปีเดียวกัน
เดิมทีผู้เล่นวัย 31 ปีมีโอกาสที่จะเลือกเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิดของเขาหลังเจ้าตัวลืมตาดูโลกที่เมืองเมลเบิร์นก่อนจะย้ายรกรากมาอนู่ที่สหรัฐอเมริกาในการแข่งขันโอลิมปิกปี 2012
อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะไม่เป็นตัวแทนประเทศบ้านเกิด แต่มุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกทีมชาติสหรัฐอเมริกาสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2016 แทน ก่อนจะติดธงร่วมกับ เลบรอน เจมส์, ไมเคิล จอร์แดน รวมถึงสกอตตี พิพเพน และซิวเหรียญทองโอลิมปิกในปีดังกล่าวมาครองได้ด้วย
ถึงกระนั้นในช่วงหลัง เออร์วิง โดนเมินจากทีมชาติสหรัฐอเมริกาอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง และหลุดโผจากชุดลุยศึกชิงแชมป์โลกที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น
กระทั่งล่าสุด เออร์วิง ให้สัมภาษณ์ผ่านการไลฟ์สตรีมใน “ทวิช” ว่า ตัวเองไม่ปิดโอกาสที่จะย้ายไปเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลีย ประเทศบ้านเกิดหากมีโอกาส “ผมถือว่าตัวเองเป็นผู้เล่นระดับนานาชาติแม้ว่าผมจะเคยเล่นในทีมชาติสหรัฐอเมิรกาก็ตาม เพื่อนร่วมงานหลายคนหัวเราะเยาะผมเมื่อผมพูดถึงเรื่องนี้ และแฟนๆ บางคนอาจไม่เห็นด้วย แต่ผมเกิดที่ออสเตรเลีย ทีมชาติสหรัฐอเมริกาขอให้ผมเล่นให้พวกเขาตอนที่ฉันอายุ 17 หรือ 18 ทว่าผมก็อยากเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลีย แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น ต่อมา โค้ชเค (ไมค์ เคอร์ซีเซฟสกี) ก็ไม่เปิดโอกาสให้มันเกิดขึ้นเช่นกัน”
ทั้งนี้ตามกฎของ ฟีบา นั้นผู้เล่นที่เคยลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ในเกมอย่างเป็นทางการไปแล้วจะไม่มีการอนุญาตให้เปลี่ยนไปเล่นให้ชาติอื่นยกเว้นแต่ส่งคำร้องพิเศษเป็นกรณี