การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลก รายการ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 ปอนด์ หรือราว 21.8 ล้านบาท ที่เทลฟอร์ด อินเตอร์เนชันแนล เซนเตอร์ ประเทศอังกฤษ เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ไคเรน วิลสัน แชมป์ 3 รายการในฤดูกาลนี้ และมืออันดับ 2 ของโลก ดวลกับ จัดด์ ทรัมป์ มืออันดับ 1 ของโลก ดีกรีแชมป์ 2 สมัยของรายการนี้
เกมเปิดฉากมาเป็นทรัมป์ที่ออกสตาร์ตได้อย่างดุดัน ทำเบรก 90 แต้ม ขึ้นนำ 1-0 เฟรม ก่อนกดเพิ่มอีกเบรก 58 หนีเป็น 2-0 แต่ วิลสัน ตอบโต้ทันควัน ไล่ตีเสมอ 2-2 เฟรม ด้วยเบรก 55 และ 81 แม้ทรัมป์จะกลับมานำอีกครั้ง 3-2 จากเบรก 79 แต้ม แต่ วิลสัน ยังรักษาความแน่นอน แซงนำ 4-3 เฟรม ด้วยเบรก 74 ทว่าทรัมป์ก็ยังไล่ตีเสมอ 4-4 เฟรม เมื่อจบเซสชั่นแรก
กลับมาแข่งขันต่อในเซสชั่นสอง ทรัมป์ขึ้นนำอีกครั้ง 5-4 เฟรม แต่หลังจากนั้น วิลสัน เร่งเครื่องเต็มที่ กวาด 4 เฟรมรวด ด้วยเบรก 72, 74 และ 70 แต้ม แซงนำ 8-5 เฟรม โดยมีสองเฟรมสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของเกม เฟรม 11 ทรัมป์นำก่อน 52 แต้ม แต่โดนวิลสันกดเบรก 72 ปล้นชัย และเฟรม 13 ที่ทรัมป์ทำเบรก 65 แต้ม แต่พลาดลูกแดงลูกสุดท้าย วิลสันฉวยโอกาสทำเบรก 70 แต้ม ปิดเฟรมไปอย่างสุดมัน
จากนั้น ทรัมป์ไม่ยอมง่ายๆ ไล่จี้ 7-8 เฟรม ก่อนที่วิลสันจะบดชนะเฟรม 17 เก็บชมพูกับดำสุดท้าย ปิดเกม 9 แต้ม หนีขึ้นแท่น 9-7 เฟรม ทว่าทรัมป์ยังฮึดสู้ กดเบรก 78 ไล่มา 8-9 เฟรม และตีเสมอ 9-9 อย่างเร็ว เฟรม ด้วยเซ็นจูรีเบรก 103 แต้ม ต้องเล่นเฟรมตัดสิน
ในเฟรมชี้ชะตา ทั้งคู่สู้กันอย่างสูสี วิลสันนำ 33-30 ก่อนที่ทรัมป์จะเสี่ยงสู้แดงหลุมยาวแต่พลาด เปิดโอกาสให้วิลสันตบแดงลง ก่อนเดินหน้าเบรกไปถึงลูกเขียว แต้มขาด 69-30 ก่อนที่ทรัมป์ตัดสินใจยอมแพ้ ส่งให้ ไคเรน วิลสัน ชนะ จัดด์ ทรัมป์ 10-9 เฟรม ด้วยสกอร์ เซสชั่นแรก : 0-90(90), 14-76(58), 108(55)-0, 81(81)-0, 16-79(79), 64-59, 74(74)-0, 28-71
เซสชั่นสอง : 39-62, 85-46, 72(72)-52(52), 74(74)-31, 70(70)-65(65), 17-72, 5-73(51), 59-50, 0-78(78), 14-109(103), 69-30 คว้าแชมป์ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ 2024 ไปครองเป็นสมัยแรก พร้อมรับเงินรางวัล 150,000 ปอนด์ หรือราว 6.5 ล้านบาท
สำหรับแชมป์รายการนี้ถือเป็นโทรฟีเก็บคะแนนสะสมใบที่ 10 ของ วิลสัน และเป็นแชมป์ที่ 4 ในฤดูกาลเดียว ต่อจาก ซีอาน กรังด์ปรีซ์, นอร์เทิร์นไอร์แลนด์ โอเพ่น และ เยอรมัน มาสเตอร์ส ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นเพียงคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์ 4 รายการในฤดูกาลเดียว
ส่วน จัดด์ ทรัมป์ แม้จะพลาดแชมป์ แต่ยังสร้างสถิติทำเซ็นจูรีเบรก 103 แต้มในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นรองแชมป์ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ เป็นสมัยที่ 3 ของเขา
