ไดจิ คามาดะ ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งญี่ปุ่น ในยุคนี้ที่ได้รับการยอมรับในฝีเท้า และพิสูจน์ตัวเองเรียบร้อยในดินแดนยุโรป ปัจจุบันเขาได้ย้ายไปหาความท้าทายใหม่ในเซเรีย อา อิตาลี กับ ลาซิโอ
ไดจิ คามาดะ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1996 ที่เมืองเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น คุณพ่อของเขา ฟูกูชิเกะ คามาดะ เป็นอดีตนักฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย ทำให้คามาดะ ได้รับการปลูกฝังด้านฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กจากคุณพ่อ
คามาดะ เริ่มต้นฝึกฝนวิชาลูกหนังกับ Kids FC (ปัจจุบันคือ FC Zebra Kids) และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ TV Ehime Cup Ehime Prefectural Youth Soccer Championship U-12 เมื่อตอนเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
หลังจากนั้นเมื่อคามาดะ ขึ้นสู่ชั้นมัธยมต้น เขาก็ถูกกัมบะ โอซากา ดึงตัวไปร่วมทีม และมีโอกาสได้ลงเล่นใน เจลีก ยู-13 อย่างไรก็ตาม 3 ปีต่อ คามาดะ มีอาการบาดเจ็บทำให้ เขาถูกปล่อยตัวออกจากทีม และกลับไปเล่นฟุตบอลโรงเรียนกับโรงเรียนมัธยม ฮิกาชิยามะในปี 2012
คามาดะ ได้สร้างความแตกต่างให้กับทีมโรงเรียน ฮิกาชิยามะ ทันที เมื่อลงเล่นเป็นกองกลางตัวรุก แล้วยิงไปถึง 22 ประตู จากการลงสนาม 18 นัด ในปี 2013
กระทั่งเมื่อเขาขึ้นสู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คามาดะ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมของโรงเรียน แม้ผลงานของทีมไม่ดีนัก จบอันดับสุดท้าย ด้วยผลงานชนะ 2 นัด แพ้ 13 นัด แต่ผลงานส่วนตัวของคามาดะ ก็ยิงไปถึง 10 ประตู ทำให้มีสโมสรจากเจลีก ที่ติดตามฟอร์มการเล่นของเขามาอย่างยาวนาน ยื่นข้อเสนอมาให้เขาถึง 5 สโมสรด้วยกัน
ช่วงเวลาหลังเรียนจบ เป็นช่วงเวลาแห่งการวัดใจว่าจะเลือกฟุตบอลและมุ่งสู่อาชีพ หรือเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่เมื่อคิดได้ว่า หากเขาเลือกเรียนมหาวิทยาลัย นั่นจะทำให้เขาได้เริ่มเส้นทางฟุตบอลตอนอายุ 22 ปีหลังเรียนจบ ซึ่งเขาเองมองว่ามันช้าไป ทำให้ หลังจากเรียนจบ คามาดะ เลือกที่จะเซ็นสัญญากับ สากัน โตสึ ในฤดูกาล 2015 โดยลงสนามช่วยทีมอย่างต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล ยิงไป 16 ประตูจาก 80 นัดรวมทุกรายการ
ฤดูกาล 2017 เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อเขาได้รับข้อเสนอจาก ไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ต ยอดทีมในบุนเดส ลีกา เยอรมนี แม้ในปี 2018/19 จะถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นกับ แซงต์ ทรุยดอง ในลีกเบลเยียม ก่อน คามาดะ ก็ยังคงแผลงฤทธิ์ และโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ยิงไป 16 ประตูจาก 36 นัด ก่อนจะกลับมาเป็นแกนหลักของ แฟรงเฟิร์ต ตั้งแต่ ฤดูกาล 2019/20 เป็นต้นมา
การพา แฟรงเฟิร์ต เป็นแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาล 2017/18 และแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2021/22 ช่วยการันตีผลงานของ คามาดะ ได้เป็นอย่างดี ว่าเขาน้้นมีศักยภาพเกินพอที่จะเล่นที่ไหนบนโลกนี้ และล่าสุดก็เป็น ลาซิโอ ทีมดังในอิตาลี ที่เล็งเห็น และคว้าเขาไปร่วมทีมเสริมความแข็งแกร่ง ในฤดูกาลใหม่ ที่กำลังจะเปิดฉากนี้
น่าติดตามจริงๆว่า คามาดะ จะอาละวาด และสร้างสรรค์ผลงานในอิตาลี ได้ดีแค่ไหน แต่ด้วยฝีเท้าระดับเขาเชื่อว่าทุกอย่างจะไปได้สวยอย่างแน่นอน