ประวัตินักกีฬา

ไรอัน กราเวนบรัช ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งอนาคตไกล

ไรอัน กราเวนบรัช


 ไรอัน กราเวนบรัช ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งอนาคตไกล ที่ได้รับการหมายมั่นว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับวงการลูกหนัง เนเธอร์แลนด์ ในอนาคต

 ไรอัน จิโร กราเวนบรัช เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2002 ในเมือง อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยคุณพ่อและคุณแม่ของเขาเป็นอดีตนักฟุตบอลทั้งคู่ นั่นทำให้เขา และพี่ชาย เดนเซลล์ กราเวนบรัช มีเป้าหมายอยู่ที่การเป็นนักฟุตบอลเช่นกัน

 กราเวนบรัช ติดตามพี่ชายเขาไปเล่นฟุตบอลอยู่เสมอ จนอายุได้ 8 ขวบ เขาก็ได้เข้าร่วมทีม  Zeeburgia ที่ Zeeburgia ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่เขาได้รับการฝึกฝนฟุตบอลอย่างจริงจัง ก่อนที่เวลาไม่นานเขาจะกลายเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ที่สุดในรุ่นเดียวกัน โดยโดดเด่นมากในเรื่องของการครองบอล

 ด้วยฝีเท้าที่ไม่ธรรมดาทำให้ 1 ปีต่อมา อาแจ็กซ์ อัมเตอร์สดัม ก็ทาบทามให้เขาไปร่วมทีม แน่นอนว่าเขา และครอบครัวตอบตกลงแทบในจะทันที เพราะอาแจ็กซ์ ถือเป็นสโมสรที่มีระบบเยาวชนดีที่สุดในโลกทีมหนึ่ง 

ไรอัน กราเวนบรัช

 เมื่อมาอยู่กับสโมสรที่ดีที่สุดอีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมทุกอย่างเอื้อต่อการพัฒนา ทำให้ฝีเท้าของ กราเวนบรัช ก้าวกระโดดถึงขีดสุด ช่วงระยะเวลา 8 ปีที่อยู่ในอคาเดมี่ของอาแจ็กซ์ เขาพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ได้โดดเด่นกว่าใคร จนกลายเป็นดาวรุ่งคนแรกที่ได้รับรางวัล “Abdelhak Nouri Trofee” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ และดีที่สุดในอคาเดมี่

 กราเวนบรัช ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี เท่านั้น และกลายเป็นเจ้าของสถิติ นักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เอเรดิวิซี่ ด้วยอายุ 16 ปี 130 วัน พร้อมกับได้รับฉายาจากสื่อ และแฟนบอลยกให้เป็น “นิวป๊อกบา”

 หลังจากขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้ 4 ปี กราเวนบรัช ได้ลงสนามให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับช่วยทีมคว้าแชมป์ ลีกสูงสุด 3 สมัย และฟุตบอลถ้วย KNVB Cup อีก 2 สมัย โดยลงสนามไป 103 นัด ยิงไป 12 ประตู

 ด้วยพรสวรรค์ และฝีเท้าที่โดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้ มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปให้ความสนใจ ก่อนจะเป็น บาเยิร์น มิวนิก ยอดทีมในบุนเดสลีก้า ที่ทุ่ม 18 ล้านยูโร คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาลล่าสุด

 แน่นอนว่าในส่วนของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เขาติดทีมมาตั้งแต่ชุดเยาวชน พร้อมกับมีชื่อกับทีมชุดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ในฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา หลุดโผไปเท่านั้น

 ด้วยฝีเท้า และอายุที่เพิ่งจะ 20 ปีเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า กราเวนบรัช จะยังพัฒนาฝีเท้าต่อไปได้อีกไกล และจะก้าวขึ้นมากลายเป็นนักเตะชื่อดังก้องโลกแน่นอน

Most Popular

To Top