ไอเซย์ โธมัส การ์ดจ่ายจอมเก๋าออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ว่าเขาต้องโดน บอสตัน เซลติกส์ ต้นสังกัดในขณะนั้นบังคับฉีดยาลงสนามเพื่อช่วยทีมช่วงเกมเพลย์ออฟในปี 2017 ก่อนได้รับบาดเจ็บซ้ำ และกลายเป็นปัญหาเรื้อรังตลอดอาชีพ
โดย โธมัส ถือเป็นผู้เล่นประสบการณ์สูงหลังลงสนามในเอ็นบีเอมาตั้งแต่ปี 2011 และผ่านการเล่นมาแล้วกับหลายเฟรนไชส์ทั้ง ซาคราเมนโต คิงส์, ฟีนิกซ์ ซันส์, บอสตัน เซลติกส์, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส, แอลเอ เลเกอร์ส, เดนเวอร์ นักเก็ตส์, วอชิงตัน วิซาร์ดส, นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์, ดัลลัส แมฟเวอริกส์ และฟีนิกส์ ซันส์ ต้นสังกัดปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้เล่นวัย 34 ปีออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ส่งผลต่ออาชีพของเขาอย่างมาก โดยย้อนไปเมื่อปี 2017 สมัยที่เขาเล่นกับ เซลติกส์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงเพลย์ออฟ โธมัส ที่กำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมระบุถูกบังคับให้ฉีดยาเพื่อลงสนามแม้จะมีอาการเจ็บที่สะโพกแต่สุดท้ายได้รับบาดเจ็บซ้ำ และเป็นปัญหาเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน
“สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการที่ไม่มีใครมาอธิบายกับผม(เรื่องโอกาสและความรุนแรงของอาการที่สะโพก) ถ้าคุณบอกผมสักหน่อย แบบ นี่มันมีโอกาสจะร้ายแรงได้นะ นี่คือความเสี่ยงที่นายต้องเจอ แล้วที่เหลือมันก็ขึ้นกับผมที่จะเลือกตัดสินใจ ผมก็ยังจะโอเคนะ แต่ตอนนั้น (เซลติกส์) ไม่มีการบอกกล่าวอะไรแบบนั้นเลย แล้วผมก็เลยแบบ โอเค นี่เรากระดูกช้ำนะ แต่เราก็แก้ไขอะไรพวกนี้มาตลอดทั้งชีวิต”
“พวกเขา (เซลติกส์) ฉีดยาให้ผมเพื่อให้ลงในซีรีส์กับ วอชิงตัน วิซาร์ดส ผมต้องฉีดมัน 3 ครั้ง ฉีดมันทุกๆ รอบ ซึ่งหนสุดท้ายคือก่อนเกม 7 กับซีรีส์ วอชิงตัน แล้วพอเกม 2 ในซีรีส์ (รอบชิงแชมป์สาย) กับ คลีฟแลนด์ ผมมีจังหวะที่โดนกระแทกที่สกรีน แล้วมันก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมาที่หลังสะโพก และหลังจากเกม 3 ผมก็ไม่ได้ลงเล่นเลย”
ทั้งนี้ โธมัส ผลผลิตจากมหาวิทยาลัย วอชิงตัน มีรางวัลส่วนตัวด้วยการได้ตำแหน่งออลสตาร์ 2 สมัยคือ 2016, 2017 อย่างไรก็ตามเขายังไม่เคยคว้าแชมป์เอ็นบีเอมาครองได้เลย โดยสถิติที่ดีสุดในอาชีพของเขานั่นก็คือในปี 2016–17 สมัยที่เล่นกับ เซลติกส์ ด้วยการทำได้เฉลี่ย 28.9 คะแนนต่อเกม