อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าชาวเซอร์เบีย ของทีมเจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม ทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตั้งข้อหาใช้ความรุนแรงและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอ จากกรณีที่เจ้าตัวผลักผู้ตัดสินในเกมพ่าย ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
ในเกมดังกล่าว ฟูแล่ม เป็นฝ่ายออกนำอยู่ 1-0 โดยได้ประตูจาก มิโตรวิช ในนาทีที่ 50 อย่างไรก็ตามเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 72 เกมเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น โดยจังหวะนั้น วิลเลียน นักเตะของฟูแล่มถูกใบแดงไล่ออกจากสนามหลังเจตนาปัดบอลชัดเจน และทำให้ แมนฯยูได้จุดโทษ
อย่างไรก็ตาม มิโตรวิช ไม่พอใจคำตัดสินจึงเดินไปเอาเรื่องและผลักอกผู้ตัดสินจนโดนไล่ออกไปอีกคน รวมถึง มาร์โก้ ซิลวา กุนซือของฟูแล่ม ก็ไปต่อว่าผู้ตัดสิน โดนไล่ออกไปอีกคนด้วย ทำให้สุดท้ายฟูแล่มที่เหลือ 9 คน ก่อนพ่ายแพ้ไป
ล่าสุดสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ออกแถลงการณ์ในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “ฟูแล่ม , มาร์โก ซิลวา และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ถูกตั้งข้อหาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 72 ในเกม เอฟเอคัพ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม มีการระบุว่า มาร์โก ซิลวา ใช้วาจาและกริยาดูหมิ่นผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินที่ 4 ก่อนที่เขาจะโดนไล่ออก และเขายังทำเช่นเดิมกับผู้ตัดสินที่ 4 หลังโดนไล่ออกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีการระบุว่า ขวดน้ำถูกขว้างมาที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเขา”
“อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ก็มีพฤติกรรม และใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมหลังโดนไล่ออก บทลงโทษมาตรฐานนั้นชัดเจนว่าไม่เพียงพอสำหรับความรุนแรงที่เขาทำต่อผู้ตัดสิน นอกจากนี้ เขายังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมดูหมิ่นหรือประทุษร้ายภายหลังจากได้รับใบแดงด้วย”
ขณะที่ เดอะ ซัน แท็บลอยด์ชื่อดังของประเทศอังกฤษ รายงานข่าวว่า กองหน้าวัย 28 ปี อาจถูกลงโทษลงแบนไม่น้อยกว่า 10 นัด ซึ่งอาจหมายถึงแข้งรายนี้อาจจะไม่ได้ลงสนามช่วยต้นสังกัดอีกแล้วในฤดูกาลนี้
โดยปกตินักเตะที่ถูกใบแดงโดยตรง จะถูกแบนห้ามลงสนาม 3 นัด หรืออาจเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก อยู่ที่พฤตกรรมความรุนแรง ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่า มิโตรวิช อาจะต้องรับโทษแบน 10 นัด โดยยกกรณีของ เปาโล ดิคานิโอ อดีตนักเตะชาวอิตาลีของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ที่เคยกระทำผิดในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 1998 ซึ่งในตอนนั้นเขาถูกแบนยาว 11 เกม