การแข่งขันสนุกเกอร์ รายการ “ดูเอลบิตส์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ 2023” ที่ โบนัส อารีนา เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวม 380,000 ปอนด์ หรือราว 16 ล้านบาท โดยในรอบชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง ชอน เมอร์ฟี มืออันดับ 6 ของโลกชาวอังกฤษ ดวลกับ ไคเรน วิลสัน มืออันดับ 7 ของโลกจากอังกฤษเช่นกัน
เกมนี้ วิลสัน ที่ทำ 6 เซ็นจูรีเบรกในรอบรองชนะเลิศเอาชนะติง จุนฮุย จากจีนฟอร์มยังร้อนต่อเนื่องเป็นฝ่ายออกนำถึง 4-0 แต่หลังจากนั้นนักสอยคิววัย 31 ปี กลับฟอร์มหลุดไปดื้อๆ ขณะที่เมอร์ฟี่กลับเครื่องติดและเล่นได้ดีกว่าชัดเจน ทำ 4 เซ็นจูรี่เบรก เริ่มจากเบรก 75 ที่ทำให้ไล่มา 1-4 จากนั้นก็ทำเบรก 70 กับ 75 ก่อนจะปล้นเฟรมที่ 8 ด้วยลูกดำสุดท้าย ตีเสมอ 4-4 เมื่อจบเซสชั่นแรก โดยที่จริงแล้ว วิลสัน เป็นฝ่ายมีโอกาสนำ 5-3 เมื่อได้วางสนุ้กแดงสุดท้าย แต่เมอร์ฟี่กลับแก้ได้อย่างเหลือเชื่อก่อนพลิกมาชนะได้
ขึ้นเซสชั่นสอง วิลสัน ยังเป็นฝ่ายออกนำอีก 5-4 ด้วยเบรก 59 คราวนี้เมอร์ฟี่ไม่ยอมให้นำห่าง ทำเซ็นจูรี่เบรกแรกของตัวเอง 131 แต้ม ตีเสมอทันควัน 5-5 วิลสันขยับขึ้นนำอีก 6-5 ด้วยเบรก 52 และน่าจะหนีออกไป 7-5 แต่กลับพลาดแดงลูกยากหลังจากมีเบรก 56 แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ เมอร์ฟี่ ปล้นเฟรมชนะด้วยลูกดำ ตีเสมอ 6-6 นั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งสุดท้ายของแมตช์
เฟรม 13 เกมต้องมาสู้กันที่ลูกสี และเป็นเมอร์ฟี่ที่คว้าโอกาสนั้นด้วยการตบลูกน้ำตาลระยะไกลขึ้นนำเป็นครั้งแรก 7-6 เฟรม และไม่ยอมให้วิลสันได้กลับสู่เกม เขาทำเบรก 115 หนีออกไป 2 เฟรม วิลสันก็เป็นนักสู้ ทำเบรก 60 ตามมา 7-8 แต่ก็ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น
เมอร์ฟี่ทำเบรก 95 แต้ม หนีไปขึ้นแท่นนำ 9-7 วิลสันมีโอกาสก่อนในเฟรม 17 แต่ทำได้เพียง 13 แต้ม เมอร์ฟี่สวนกลับทันควันด้วยการทำ 39 แต้ม ก่อนขาวจะหลุดตำแหน่ง ต้องกันมาแทงกัน บีบให้ วิลสัน ต้องเสี่ยงสู้แดงหลุมยาวซึ่งเป็นลูกยาก แล้วก็พลาด เปิดโอกาสให้เมอร์ฟี่ออกมาทำอีก 22 แต้ม เอาชนะ 10-7 เฟรม เซสชั่นแรก : 20-108(108), 0-121(84), 31-90(62), 0-111(111), 82(75)-0, 73(70)-31, 107(75)-11, 67-63
เซสชั่นสอง : 14-74(59), 131(131)-0, 15-67(52), 64-56(56), 64-35, 115(115)-0, 32-65(60), 109(95)-0, 76-13
จากชัยชนะแมตช์นี้ ทำให้ ชอน เมอร์ฟี่ คว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรก พร้อมรับเงินรางวัล 150,000 ปอนด์ หรือราว 6.3 ล้านบาท นอกจากนี้ เมอร์ฟี่ ยังเป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์เก็บคะแนน 2 รายการภายใน 5 สัปดาห์ และรายการที่ 11 ในอาชีพ นี่คือครั้งที่ 2 ถัดจากฤดูกาล 2019/20 ที่เมอร์ฟี่ได้แชมป์ 2 รายการใน 1 ฤดูกาล
หลังการแข่งขัน เมอร์ฟี่ กล่าวว่า “ผมแทบสติแตกเลย ดีใจที่กลับสู่ฟอร์มแบบเพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ และคว้าแชมป์ได้อีกรายการ”
“ครึ่งหลังของเซสชั่นแรกคือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อผมสามารถตามตีเสมอ 4-4 ได้หลังจากถูกนำห่างถึง 4-0 ในช่วงเฟรมที่ 12 หรือ 13 ผมท้าทายตัวเองเพื่อหาจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ผู้ยิ่งใหญ่สมัยที่ผมเป็นเด็ก อย่างสตีฟ เดวิส และ สตีเฟ่น เฮนดรี้ มักจะมีพลังแฝงและเรียกมันออกมาใช้ได้ในเวลาสำคัญที่ต้องการ”
“ผมทำงานหนักทั้งด้านเกมการเล่น และเรื่องส่วนตัว ผมพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา พยายามหาจิตวิญญาณของผมให้เจอ แม้บางครั้งมันจะเจ็บปวดแต่มันก็ได้ผล ผมรู้ว่าฟอร์มกลับมาเข้าที่มาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันเพื่อจะให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี”
“ตอนนี้เหลือศึกชิงแชมป์โลกอีกรายการเดียว ผมพร้อมจ่ายทุกอย่างเพื่อรักษาฟอร์มนี้ไว้ ซึ่งหากทำได้ผมก็จะทำให้คู่แข่งทุกคนต้องหนักใจ” เมอร์ฟี่กล่าว
ขณะที่วิลสัน รับเงินรางวัลปลอบใจ 60,000 ปอนด์ หรือราว 2.5 ล้านบาท กล่าวว่า “มีอยู่ 2 เฟรมที่มันคาใจผม ก็คือเฟรม 8 ที่ผมน่าจะนำ 5-3 แล้วก็เฟรมที่ 12 ที่ผมมีโอกาสนำ 7-5 มันเป็นเฟรมที่ผมต้องคว้าให้ได้เมื่อเจอคู่แข่งระดับชอว์น”
“ครอบครัวผมผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาหยกๆ (ลูกชายป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล) ผมไม่ได้ซ้อมเลยก่อนลงแข่งสัปดาห์นี้ ดังนั้นการได้เข้ามาถึงรอบชิงถือว่าเหนือคาดหมาย การมีลูกเมียมาให้กำลังใจตลอดรายการก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม รอดูผลงานของผมในศึกชิงแชมป์โลกได้เลย เมื่อผมได้ฟิตซ้อมอย่างเต็มที่”