กลับมายึดตำแหน่งแบ๊กขวาตัวจริงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้งสำหรับ แอรอน วาน-บิสซากา หลังจากต้องตกเป็นตัวสำรอง และโดนอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปพักใหญ่
แอรอน วาน-บิสซากา เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 1997 ที่ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขามีเชื้อสายมาจากคองโก โดย วาน-บิสซากา เริ่มต้นฝึกฝนฟุตบอลกับจูเนียร์อีลิต ก่อนที่อายุ 11 ปี จะได้เข้าไปเป็นนักเตะเยาวชนของคริสตัล พาเลซ
วาน-บิสซากา เติบโตขึ้นมาเป็นแบ๊กขวาที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเร็ว และมีเซนส์ในการเข้าปะทะ และดวลตัวต่อตัวเป็นเลิศ จนในปี 2015 เคยถูกทีมชาติ คองโก ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี เรียกตัวไปติดทีม
จากนั้นถัดมา 1 ปี วาน-บิสซากา ถูกดันขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ของคริสตัว พาเลซ โดยเริ่มแรกเขาถูกส่งลงไปเล่นในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวา แต่หลังจากนั้นในปี 2017 ภายใต้การนำของ แฟรงก์ เดอ บัวร์ กุนซือชาวดัตช์ ที่มาอยู่กับทีมช่วงสั้น ก็ได้จับเขาถอยลงมาเล่นตำแหน่งแบ๊กขวา และ วาน-บิสซากา ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในตำแหน่งนี้
วาน-บิสซากา โดดเด่นอย่างมากในด้านเกมรับ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2018/19 ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีม จนได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีม ก่อนจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้าตัวเขาไปเสริมทัพ
หลังจากย้ายมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วาน-บิสซากา ยังคงโดดเด่นในเรื่องของเกมรับ ที่เคยถูกใครต่อใครหลายคนยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดวล 1-1 แล้วผ่านยากที่สุดในโลก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อย้ายมาอยู่ทีมใหญ่ที่ต้องการให้ ฟูลแบ๊ก มีส่วนร่วมในเกมรุกด้วยแล้วนั้น วาน-บิสซากา ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เขาถูกวิจารณ์อย่างมากในเรื่องของเกมรุก ที่มักจะทำให้ทีมเสียโอกาสอยู่บ่อยครั้ง
ด้วยเหตุนี้ บวกกับอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาค่อยๆได้รับโอกาสน้อยลงตั้งแต่ฤดูกาล 2021/22 และเพิ่งกลับมายึดตัวจริงได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถ มีชอตกระชากลากเลี้ยง แต่ทำเกมขึ้นมาสวยๆหลายครั้งให้เห็น
คงต้องดูกันยาวๆสำหรับ วาน-บิสซากา ยิ่งถ้าเขาสามารถเพิ่มศักยภาพในด้านเกมรุกของตัวเองให้ดีขึ้นได้ เชื่อว่าเขาจะยึดตำแหน่งตัวจริงไปอีกยาวๆ ทั้งยังจะก้าวขึ้นไปเป็นแบ๊กขวาระดับโลกที่ทุกคนยอมรับ
