ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล หรือ ซีบีเอฟ ยืนยันว่า คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนเก่งของ เรอัล มาดริด จะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติบราซิล ในเดือน มิถุนายน ปี 2024
ทีมชาติบราซิล แยกทางกับ ติเต หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่พวกเขาจะให้ รามอน เมเนเซส โค้ชของทีมชุดยู-20 ขึ้นมารักษาการแทน
ขณะที่กุนซือชาวอิตาลี ยังเหลือสัญญากับทัพราชันชุด อีก 1 ปี และเมื่อหมดสัญญากับทีมดังแห่งสเปน เขาจะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติบราซิล จากคำยืนยันของ เอ็ดนัลโด โรดริเกวส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล “เขาจะเริ่มต้นสำหรับการแข่งขัน โคปา อเมริกา 2024” เอ็ดนัลโด เผย
นอกจากนี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล ได้แต่งตั้ง เฟร์นานโด ดินิซ ผู้จัดการทีม ฟลูมิเนนเซ ให้มาทำหน้าที่เป็นกุนซือเพื่อดูแลทีมไปก่อน โดยจะรับผิดชอบเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ 6 เกมก่อนที่ อันเชล็อตติ จะเข้ามาสานต่อ โดยจะตรงกับช่วงการแข่งขันโคปา อเมริกา ที่สหรัฐอเมริกา พอดี
“แท็กติกของเขา (ดินิซ) คล้ายกับโค้ชที่จะมาทำหน้าที่ต่อ ในศึกโคปา อเมริกา อันเชล็อตติ เราไม่เรียกเขาว่ากุนซือรักษาการณ์ของทีมชาติ เขาจะเข้ามารับงานแล้วส่งต่อแก่ อันเชล็อตติ”
โดยการแต่งตั้ง อันเชล็อตติ จะทำให้กุนซือชาวอิตาลี เป็นผู้จัดการทีมต่างชาติคนแรกในรอบเกือบ 60 ปี ของทีมชาติบราซิล นับตั้งแต่ ฟิลโป นูเนซ ชาวอาร์เจนตินา ที่ได้คุมแค่เกมเดียวในปี 1965
อย่างไรก็ตาม ลูลา เด ซิลวา ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศบราซิล ตั้งคำถามถึงสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล ที่ประกาศแต่งตั้ง อันเชล็อตติ มาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติแบบล่วงหน้า โดยมองว่ากุนซือชาวอิตาลี ควรกลับไปแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเกิดมากกว่า
“เขาไม่เคยเป็นโค้ชให้ทีมชาติอิตาลี แล้วทำไมเขาไม่ไปแก้ปัญหาให้อิตาลีล่ะ พวกเขาไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกหนล่าสุดด้วยซ้ำ ปัญหาของเราไม่ใช่เรื่องผู้ฝึกสอน แต่เป็นเรื่องที่เราไม่มีนักเตะคุณภาพอย่างที่เราเคยมีเมื่อครั้งอดีต”
สำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ วัย 64 ปี ยังไม่เคยผ่านงานคุมทีมชาติมาก่อน แต่เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังยุโรป โดยเคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สูงสุด 4 สมัย และ 5 ลีกชั้นนำของยุโรป ได้แก่ พรีเมียร์ ลีก, บุนเดสลีกา เยอรมัน, กัลโช เซเรีย อา, ลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่างน้อยลีกละ 1 สมัย