การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ 2566 โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายสาธิต บุญทอง กรรมการคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ผศ.ดร. ชาญชัย สุขสุวรรณ กรรมการคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ผู้บริหาร กกท., ผู้บริหารสมาคมกีฬาฯ และนักกีฬาทีมชาติ ร่วมงาน ที่ ลานพลาซ่า บริเวณทางขึ้นราชมังคลากีฬาสถาน ฝั่งสระว่ายน้ำ กกท.
ในปี 2566 ได้มีการมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่นรวม 38 รางวัล ใน 10 สาขา และมอบรางวัลพิเศษให้แก่นักบริหารกีฬาระดับนานาชาติทรงคุณค่า และนักบริหารกีฬาทรงคุณค่า ซึ่งในส่วนของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล ชนิดกีฬาทีมดีเด่นและประเภทกีฬาทีมดีเด่น ประเภทชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORTS) ได้แก่วอลเลย์บอลทีมหญิง ชุดแชมป์เอเชีย และเหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์
นอกจากนี้ นายพิศาล มูลศาสตรสาทร อดีตนายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ยังได้รับรางวัล รางวัลครูชุม ผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณูปการที่อดีตนายกสมาคมฯ ได้วางรากฐานให้กับกีฬาวอลเลย์บอลของไทยได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาจวบจนถึง ณ ปัจจุบัน
ด้าน น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 15 เมษายน 2529 โดยกำหนดให้ทุกวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกๆปีเป็น “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 ยังความปลื้มปิติแก่ประชาชนชาวไทยทั้งชาติ
“การที่นักกีฬาซึ่งเป็นตัวแทนของชาติ ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ฝึกซ้อม ทุ่มเทพลังทั้งหมดในการแข่งขันจนชนะเลิศ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ถือเป็น การเสียสละ เพื่อประเทศชาติตามรอยพระยุคลบาท โดยผลงานของนักกีฬาในรอบปีที่ผ่าน ถือว่าได้สร้างชื่อเสียงและความสุขให้กับประชาชนในประเทศเป็นอย่างมาก ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จะได้รับรางวัลทุกรางวัล ซึ่งได้สร้างชื่อเสียง เกียรติยศ ด้านการกีฬาในแก่ประเทศชาติด้วยกันทั้งสิ้น”
ส่วน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานด้านกีฬาของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง จึงจัดงานในปีนี้ขึ้นมา ซึ่งถือจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 38 ภายใต้แนวคิด “Supporter Spirit Soft Power” โดยมีการมอบรางวัลให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และบุคลากรกีฬา ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ทุกท่านที่ได้รับรางวัล ความสำเร็จที่ได้รับจากการแข่งขันกีฬา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่ชาวไทยทุกคน และเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชน และประชาชนหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬาอันจะเป็นประโยชน์ทางสังคม ทำให้คนในประเทศชาติ มีสุขภาพที่แข็งแรง
สำหรับ ปีนี้มีการมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่นรวม 38 รางวัล ใน 10 สาขา และมอบรางวัลพิเศษให้แก่นักบริหารกีฬาระดับนานาชาติทรงคุณค่าและนักบริหารกีฬาทรงคุณค่าอีกด้วย