หลังจากที่ “เดอะ ร็อกเก็ต” รอนนี โอซุลลิแวน มืออันดับ 1 ของโลก และแชมป์โลก 7 สมัย เอาชนะ จัดด์ ทรัมป์ มืออันดับ 2 ของโลก คว้าแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2024 ที่ มอร์นิ่งไซด์ อารีน่า เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ รับเงินรางวัล 100,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.56 ล้านบาท ทั้งยังถือเป็นแชมป์รายการนี้ สมัยที่ 3 ของตัวเอง รวมถึงบวกเงินรางวัลสะสมในฤดูกาลนี้ เฉียด 900,000 ปอนด์
ซึ่งก่อนหน้านี้ โอซุลลิแวน กำลังคิวร้อน ชนะติดต่อกันมาแล้ว 13 แมตช์ และได้มา 2 แชมป์ระดับทริปเปิ้ลคราวน์ คือทั้ง ยูเค แชมเปี้ยนชิพ และ มาสเตอร์ส ก่อนจะมาคว้าแชมป์รายการดังกล่าวได้เป็น 3 แชมป์เข้าไปแล้ว
หลังการแข่งขัน รอนนี เผยว่า “จัดด์ออกตัวได้แรงมาก ผมค่อยๆ พลิกสถานการณ์กลับมา การไล่มาเหลือ 3-5 เฟรม เมื่อจบเซสชั่นแรกทำให้ผมคิดว่ามีลุ้น พอเซสชั่นสองตอนค่ำ ผมพยายามคุมสติให้มั่น”
“ผมสนุกกับการขับเคี่ยวกัน ผมผ่านประสบการณ์มาโชกโชนในสถานการณ์แบบนี้ และผมก็เป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องกว่าที่เคยเป็นมา จัดด์เป็นนักสู้ สำหรับผมเขาคือเต็งหนึ่งในศึกชิงแชมป์โลกที่เชฟฟิลด์ แต่ผมยังมีอีก 3 เดือนที่จะสร้างความสม่ำเสมอให้เกมของผม มันคงสนุกเมื่อถึงวันนั้น”
“เมื่อคืนวานที่เจอกับติง มันเป็นการโชว์ฟอร์มที่วิเศษสุด นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับผลงานแค่แมตช์เดียว บางทีผมก็สงสัยว่าทำไม่ไม่ทำแบบนี้ให้ได้บ่อยกว่านี้ แต่ก็พอใจที่รู้ว่ายังสามารถทำแบบนั้นได้อยู่”
“การคว้าแชมป์ ทำให้ผมได้รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ แม้วันนี้จะเล่นได้ไม่ไหลลื่นอย่างที่ผมเคยทำได้” โอซัลลิแวนกล่าว
ขณะที่ทรัมป์ ทำได้เพียงรองแชมป์อีกครั้ง หลังจากหนก่อนก็ต้องอกหักในรอบชิงชนะเลิศ ต้องทำใจรับเงินรางวัลรองแชมป์ 40,000 ปอนด์ กล่าวว่า “มาตรฐานการเล่นวันนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่รอนนี่มีความเด็ดขาดในช่วงเวลาสำคัญ และชนะเฟรมที่สำคัญ เขาเล่นช็อตเซฟตี้ได้ดีกว่าผมในคืนนี้ และเมื่อดูโดยรวมแล้วเขาสมควรที่จะคว้าแชมป์ ผมคิกลูกดำในเฟรมที่ 14 ที่จะตีเสมอ 7-7 แล้วก็มาพลาดน้ำตาลในเฟรมถัดมา เป็นอีก 2 จุดสำคัญ ผมสนุกเสมอในการดวลกับรอนนี่ และหวังว่าจะได้เจอกันในรอบชิงมากกว่านี้อีก”