นักกีฬาชุดโอลิมปิกของทีมชาติสหรัฐอเมริกาโหวตให้ เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลทีมชาติสหรัฐ จาก แอลเอ เลเกอร์ส ทำหน้าที่ถือธงชาติสหรัฐอเมริกาในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ส่วนฝ่ายหญิงจะมีการประกาศในเร็วๆ นี้
โดยพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีสซึ่งจะจัดขึ้นบนแม่น้ำแซนในวันที่ 26 ก.ค. ล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิกสหรัฐอเมริกา ระบุว่า นักกีฬาโอลิมปิกโหวตให้ เจมส์ วัย 39 ซึ่งเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2008 และ2012 ได้รับคะแนนโหวตเป็นเบอร์ 1 ให้รับหน้าที่ดังกล่าว
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับหน้าที่เป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาในเวทีระดับโลก สำหรับเด็กๆที่ เอครอน(บ้านเกิดเลบรอน) ความรับผิดชอบนี้มีความหมายกับผมมาก ไม่ใช่แค่ครอบครัวผม แต่เพื่อนร่วมทีม นักกีฬาทุกคน จากทั่วทุกมุมโลกจะร่วมสร้างแรงบรรดาใจอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน” เจมส์ ซึ่งลงเล่นในโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 4 สมัยระบุ
ขณะที่ สตีเฟ่น เคอร์รี ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ยอมรับว่าความสัมพันธ์ของเขา เจมส์ นั้นมีทั้งด้านดี และด้านร้ายในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนจะต้องเป็นเพื่อนร่วมทีมกันเป็นครั้งแรกสำหรับการช่วยทัพยัดห่วง “มะกัน” ลุยโอลิมปิกเกมส์ 2024
เคอร์รี นำทัพ วอร์ริเออร์ส เผชิญหน้ากับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ของ เจมส์ ในรอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอ 4 ฤดูกาลติดต่อกันในช่วงปี 2015-2018 จนกระทั่ง “คิงเจมส์” ย้ายมาเป็นคู่ปรับฝั่งตะวันออกเมื่อเขาเซ็นสัญญากับ เลเกอร์ส ตั้งแต่ซีซั่น 2018-2019
“มันเหมือนกับความไม่พอใจอย่างมากของใครบางคนที่ขวางทางคุณ แต่จากทั้งหมดนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความเคารพสูงสุดต่อตัวตนของเขาในฐานะบุคคลและผู้เล่น และชอบว่าเขาเก่งแค่ไหน และความท้าทายในการพยายามเอาชนะเขาและพยายามแก้ไขปัญหานั้นทุกปี”
ด้าน เจมส์ กล่าวถึงการแข่งขันกันระหว่างเขากับ เคอร์รี โดยพูดถึงความคิดที่ว่าพวกเขาควรจะเกลียดกันนั้นเป็นสิ่งที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสื่อ และสิ่งสำคัญสำหรับทั้งคู่แล้วมันไม่เคยไปถึงจุดนั้น “เกมบาสเกตบอลไม่ได้คงอยู่ตลอดไป’ เจมส์ กล่าว ‘คุณคงไม่อยากเสียโอกาสในการมีความสัมพันธ์กับใครสักคน”
ส่วน เควิน ดูแรนต์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของ เคอร์รี กล่าวถึงการแข่งขันระหว่างผู้เล่นชั้นนำนั้นนำไปสู่มิตรภาพเหมือนปัจจุบัน “เขาไม่ใช่ สเต็ปห์ วัยหนุ่มอีกต่อไปแล้ว และเขาไม่ใช่ เจมส์ แบบที่คุณมองหาอีกต่อไป คุณกลายเป็นคู่แข่งแล้ว ผมคิดว่าระดับความเคารพนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก ผมคิดว่าตอนนี้พวกเขากลายเป็นเพื่อนที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นเมื่อต้องผ่านประสบการณ์นั้น แข่งขันกันและเป็นคู่แข่งกัน ถ้าคุณเรียกมันอย่างนั้น”
