เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเดือดหลังเกมกับ อาร์เซนอล เมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า หลังจากนี้การพบกันของทั้งคู่จะเป็นสงคราม
ก่อนหน้านี้เกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซนอล มีประเด็นเดือดในช่วงท้ายเกม ในช่วงที่ทีมเรือใบสีฟ้าได้ประตูตีเสมอ หลังปรากฎภาพ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ วิ่งไปหยิบบอลก่อน ขว้างไปที่ศีรษะของ กาเบรียล มากัลเญส นักเตะของอาร์เซนอล เพื่อเป็นการฉลองประตู รวมถึงการแสดงกิริยาไม่เคารพ มิเกล อาร์เตตา กุนซือของปืนใหญ่ด้วย
ขณะที่ มากัลเญส ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้ติดใจในจังหวะดังกล่าว เนื่องจากเขามองว่านี่คือการต่อสู้ คือสงคราม การยั่วยุเป็นเรื่องปกติของฟุตบอล แต่ก็ทิ้งท้ายว่า ตั้งตารอรับมือทัพเรือใบสีฟ้า อยู่ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม บ้านของอาร์เซนอล
ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ตัวเขาพร้อมที่จะมองเกมกับ อาร์เซนอล เป็นเกมที่ดุเดือดเหมือนกับสงคราม หลังได้ฟังสัมภาษณ์ของกองหลังชาวบราซิล
“ผมคงต้องบอกว่าบางครั้งมันจะมีอารมณ์ร่วมสูงกันได้ กาเบรียล ก็พูดเอาไว้เป็นอย่างดีหลังจากจบเกมไปแล้ว นี่คือสงคราม เราเลยต้องยั่วคู่แข่ง ต้องผลักพวกเขา ดังนั้นคุณจะทำอะไรได้ เราก็คงทำได้แค่พูดว่า โอเค นายยั่วฉันสินะ โอเค งั้นฉันก็พร้อมสู้ นายอยากได้สงครามสินะ งั้นตอนนี้เราก็ถือว่าทำสงครามกันแล้ว”
“ผมต้องทำอะไรล่ะ ผมมั่นใจว่าเขา (เออร์ลิง ฮาลันด์) ก็คงไม่ภูมิใจกับสิ่งที่เขาทำไปหรอก หลังจากตอนนั้นมันมีอารมณ์ถาโถมเข้ามาหลายต่อหลายอารมณ์ แต่ผมเข้าใจได้กับการที่ อาร์เซนอล ชอบทำการเข้าสกัดแบบที่ทำในเกมนั้น”
นอกจากนี้กุนซือชาวสเปน ยังกล่าวถึงคำสัมภาษณ์ของ มิเกล อาร์เตตา ที่ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ระบุว่านักเตะของอาร์เซนอล เล่นสกปรกด้วยการถ่วงเวลา ซึ่ง อาร์เตตา โต้กลับว่า เขาเคยทำงานกับทีมเรือใบสีฟ้าจนมีข้อมูลเกี่ยวกับทีมนี้ โดย เป๊ป ต้องการให้กุนซืออาร์เซนอลออกมาพูดชี้แจงให้ชัดเจน ว่าต้องการสื่อถึงสิ่งใด
“ครั้งหน้าเขาต้องพูดให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร เขาบอกว่าเคยอยู่กับเรา 4 ปี และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ มันอาจเกี่ยวกับกระบวนการต่างๆ ของการที่เราโดนตั้งข้อหา 115 ข้อหา มันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้เหมือนกัน เขาอาจจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้น หรือเขาอาจจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ครั้งหน้าผมก็หวังว่ามันจะมีการถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ เพราะที่จริงผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา พอถึงตอนนั้นเขาก็จะสามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าเขาหมายถึงอะไรที่ให้สัมภาษณ์ว่า เคยอยู่กับที่นี่และรู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แทนที่จะพูดแบบคลุมเครืออย่างนี้”