ประวัตินักกีฬา

เหงียน ซวน เซิน ราฟาเอลสัน จากแข้งบราซิล สู่ดาวซัลโวทีมชาติเวียดนาม

เหงียน ซวน เซิน

นาทีนี้คงไม่มีแฟนบอลอาเซียนคนไหนไม่รู้จักกับ เหงียน ซวน เซิน ดาวยิงทีมชาติเวียดนาม ซึ่งโอนสัญชาติมาจากบราซิล พร้อมกับระเบิดฟอร์มเป็นดาวซัลโว ช่วยให้เวียดนาม คว้าแชมป์อาเซียน 2024 เป็นสมัยที่ 3

เหงียน ซวน เซิน หรือชื่อเดิม ราฟาเอลสัน เบเซอร์รา เฟอร์นันเดส เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ.1997 ที่เมืองปิราเปมาส ประเทศบราซิล ในครอบครัวยากจนโดยข้อมูลระบุว่า บิดา และมารดาของเขานั้นประกอบอาชีพเป็นชาวนา 

เมื่ออายุ 14 ปี ราฟาเอลสันย้ายไปยังเมืองซัลวาดอร์เพียงลำพัง เพื่อแสวงหาโอกาสในวงการฟุตบอล เขาเข้าร่วมอะคาเดมีเยาวชนของสโมสรบาเฮีย และอีกสองปีถัดมาก็ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของวิตอเรีย ในปี 2015 พร้อมกับได้เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรแห่งนี้โดยลงเล่น 15 นัดและทำได้ 1 ประตู 

จากนั้นในปี 2018 ราฟาเอลสัน ได้ย้ายมาค้าแข้งในวีลีก ของเวียดนามกับสโมสรดานัง และต่อมาในปี 2020 ก็ย้ายไปอยู่กับสโมสรนามดินห์ 

การเล่นในเวียดนามทำให้เขาได้รับความนิยมและความเคารพอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เขาค้าแข้งในวีลีก เขาทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง โดยในฤดูกาลล่าสุดกับสโมสรนามดินห์ ราฟาเอลสัน ยิงไปถึง 31 ประตูจาก 24 นัด ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์วีลีกได้สำเร็จ พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม, ดาวซัลโว และประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 

เหงียน ซวน เซิน

ด้วยความฝีเท้า และความชื่นชมที่ชาวเวียดนามมีต่อ ราฟาเอลสัน ทำให้สุดท้ายเขาตัดสินใจโอนสัญชาติมาเป็นเวียดนามในเดือนพฤศจิกายน 2024 หลังจากอาศัยอยู่ในประเทศนี้เกิน 5 ปี 

และเหงียน ซวน เซิน ก็ประเดิมผลงานในสีเสื้อเวียดนาม ด้วยการเป็นดาวซัลโวในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ด้วยผลงาน 7 ประตู กลายเป็นนักเตะทีมชาติเวียดนามคนแรกที่ยิงได้มากกว่า 6 ประตูในเอเอฟเอฟ คัพ ครั้งเดียว แซงหน้า เล เหวิน ดึ๊ก ที่เคยทำไว้ในปี 2002 และ เหงียน เตี๋ยน ลิน ที่เคยคว้ารางวัลดาวซัลโวในปี 2022 

เรียกได้ว่าการโอนสัญชาติของเหงียน ซวน เซิน ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมชาติเวียดนาม โดยเพิ่มความสามารถในการทำประตูและประสบการณ์จากลีกต่างประเทศ เขากลายเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันระดับภูมิภาคและนานาชาติไปแล้ว

อย่างไรก็ตามล่าสุด เหงียน ซวน เซฺิน ได้รับบาดเจ็บกระดูกขาหัก ในเกมรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ที่พบกับไทย ซึ่งมีข่าวว่าเจ้าตัวต้องได้รับการผ่าตัด และพักยาว คงต้องมาติดตามกันต่อว่า เหงียน ซวน เซิน จะกลับมารับใช้เวียดนามได้อีกเมื่อไหร่ และเมื่อกลับมาแล้ว ฟอร์มเก่งของเขาจะยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือไม่

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top