เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่าการแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ ให้เข้ามาคุมทีม คือจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดที่ทำให้สโมสรอยู่ในจุดที่ตกต่ำ
ก่อนหน้านี้มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับโครงสร้างภายในสโมสร โดยเฉพาะเรื่องการปลดพนักงาน ซึ่ง เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ ยอมรับว่าหากไม่ทำแบบนั้น ทีมปีศาจแดงอาจไม่เหลือเงินจนถึงสิ้นปี 2025
ล่าสุด เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ เปิดใจให้สัมภาษณ์อีกครั้งกับสื่อชื่อดังอย่าง เดอะ ไทมส์ โดยครั้งนี้เจ้าของกลุ่มทุน INEOS กล่าวพาดพิงถึงอดีตกุนซืออย่าง เดวิด มอยส์ ที่เข้ามารับงานช่วงปี 2013 คือจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดของสโมสร
“คุณมีทีมบริหาร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองชุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาซึ่งทำงานได้อย่างย่ำแย่เพราะเจ้าของทีมไม่เหมือน สตีฟ แพริช (ของคริสตัล พาเลซ) และ แดเนียล เลวี (ของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส) พวกเขาไม่ลงลึกในรายละเอียด”
“หากคุณดู เรอัล มาดริด ,บาร์เซโลนา หรือ บาเยิร์น มิวนิค พวกเขาไม่ทำอย่างนั้น พวกเขายังเป็นยอดทีม มันไม่เหมือนที่นี่เพราะการจัดการที่แย่ และพวกเขาตัดสินใจได้แย่”
“ผมชอบ เดวิด มอยส์ และผมคิดว่าเขาเป็นผู้จัดการที่ดี แต่การเปลี่ยนจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเป็น มอยส์ ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะทำ มอยส์ เข้ามาแทน เฟอร์กูสัน ซึ่งได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 13 สมัย และได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก สองสมัย จากนั้นคุณตั้งคนที่ไม่เคยคุมนักเตะชั้นยอด และไม่เคยได้แชมป์อะไรเลย”
“ผมไม่คิดว่า เรอัล มาดริด จะเลือกโค้ชแบบนี้ สโมสรไม่ได้เลือกโค้ชคนที่ใช่เสมอไป แต่พวกเขาสมควรมีซีอีโอที่ดีที่สุดในโลก และโค้ชที่ดีที่สุดในโลกเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก แต่พวกเขาตัดสินใจพลาดทั้งซีอีโอและโค้ช”
สำหรับ เดวิด มอยส์ เข้ามารับงานต่อจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของทีมปีศาจแดงที่ตัดสินใจวางมือเมื่อปี 2013 อย่างไรก็ตาม มอยส์ ไม่สามารถสานต่อความสำเร็จของทีมได้ ซึ่งหลังจากนั้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาแล้วหลายราย ทั้ง หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ มูรินโญ, โอเล กุนนาร์ โซลชา, เอริก เทน ฮาก และล่าสุดกับ รูเบน อโมริม
