ในบรรดาผู้รักษาประตูที่เคยสร้างตำนานกับสโมสรบาร์เซโลนา ไม่มีชื่อใดที่โดดเด่นไปกว่า วิกเตอร์ บัลเดส นายทวารชาวสเปนที่ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของความสำเร็จในยุคทองของ บาร์เซโลนา ภายใต้การนำของเป๊ป กวาร์ดิโอลา โดย บัลเดส ไม่ได้เป็นเพียงผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้นำที่โดดเด่น มีความกล้าเสี่ยง และความสามารถในการใช้เท้าเล่นกับบอลได้ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้รักษาประตูในยุคปัจจุบัน
วิกเตอร์ บัลเดส เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1982 ที่เมืองอูสกา ประเทศสเปน เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลกับทีมเยาวชนของบาร์เซโลนาในปี 1992 แต่ไม่นานก็ย้ายกลับไปบ้านเกิดก่อนจะกลับมาร่วมทีมลา มาเซีย อีกครั้งในปี 1995 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานมือกาวผู้ผูกพันกับถิ่นคัมป์นูเกือบตลอดชีวิตการค้าแข้ง
เขาเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลนาในปี 2002 และสามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงจากผู้รักษาประตูรุ่นพี่ได้สำเร็จ บัลเดส กลายเป็นผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งของทีมในช่วงเวลาที่ทีมกำลังเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยผลงานอันสม่ำเสมอและความสามารถในการเซฟลูกสำคัญๆ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้รักษาประตูที่มักจะโชว์ฟอร์มดีในเกมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมเอลกลาซิโก้ หรือการแข่งขันในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ บัลเดส มาพร้อมกับยุคของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่เข้ามารับตำแหน่งกุนซือในปี 2008 โดยในฤดูกาล 2008/09 บาร์เซโลนาได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้า 6 แชมป์ภายในปีเดียว ซึ่ง บัลเดส มีบทบาทสำคัญอย่างมากในความสำเร็จนั้น เขาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงในเกมนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่บาร์ซาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 ที่กรุงโรม ซึ่งเขาโชว์ซูเปอร์เซฟสำคัญจากลูกยิงของคริสเตียโน โรนัลโด ช่วยให้ทีมรักษาคลีนชีตและคว้าแชมป์ไปครอง
ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับบาร์เซโลนา บัลเดส คว้าแชมป์ลาลีกา 6 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย และยังคว้ารางวัลซาโมร่า โทรฟี่ (รางวัลผู้รักษาประตูที่มีค่าเฉลี่ยการเสียประตูน้อยที่สุดในลาลีกา) ถึง 5 ครั้ง ถือเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสเปน
หลังจากหมดสัญญากับบาร์เซโลนาในปี 2014 บัลเดส ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า ทำให้การย้ายไปสโมสรใหม่ต้องล่าช้าไปกว่าที่คาดไว้ เขาเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงต้นปี 2015 แต่ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ โดยได้ลงเล่นเพียงไม่กี่นัดภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล ต่อมาเขาถูกปล่อยยืมตัวไปสโมสรสตองดาร์ ลีแอช ในลีกเบลเยียม ก่อนจะกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับมิดเดิลสโบรห์ในฤดูกาล 2016/17 และประกาศแขวนถุงมือหลังจบฤดูกาลนั้นด้วยวัย 35 ปี
แม้ในทีมชาติสเปน บัลเดสจะไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนักเนื่องจากต้องอยู่ภายใต้เงาของอีเคร์ กาซิยาส แต่เขาก็เป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์โลก 2010 และแชมป์ยูโร 2012 โดยถือเป็นผู้เล่นสำรองที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญภายในทีม
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ บัลเดส ผันตัวมาเป็นโค้ช โดยเริ่มจากการคุมทีมเยาวชนของบาร์เซโลนาในระดับ ยู-19 แต่ก็ตัดสินใจแยกทางกับสโมสรหลังจากทำงานได้ไม่นาน โดยเหตุผลมาจากความเห็นไม่ตรงกับฝ่ายบริหารเกี่ยวกับแนวทางการทำทีม หลังจากนั้น เขาหันหลังให้วงการฟุตบอลไปใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างสงบ และหันไปสนใจงานด้านอื่น เช่น การผลิตสื่อและการถ่ายภาพ
วิกเตอร์ บัลเดส ถือเป็นตัวอย่างของนักเตะที่เติบโตจากระบบเยาวชนของสโมสร กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคทอง และแม้บทบาทของเขาจะถูกมองข้ามอยู่บ้างเมื่อพูดถึงทีมบาร์เซโลนาในยุคนั้น แต่ผลงานของเขาในสนามคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าความสำเร็จ