ริคาร์โด้ อิซเซ็กสัน ดอส ซานโตส ไลเต้ หรือที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักกันในชื่อ “กาก้า” คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ถูกยกย่องว่าเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยฝีเท้าอันเหนือชั้น วิสัยทัศน์การจ่ายบอลที่แม่นยำ และบุคลิกที่สุภาพเรียบร้อย ทำให้ กาก้ากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลทั่วโลก
กาก้า เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1982 ที่กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล ในครอบครัวชนชั้นกลางที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและความเชื่อทางศาสนา เขาเติบโตขึ้นในเมืองเซาเปาโล และเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมเยาวชนของเซาเปาโล เอฟซี เขาโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย และได้รับการเลื่อนชั้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2001 ด้วยอายุเพียง 18 ปี เขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในบราซิล ด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่เฉียบคม การจบสกอร์ที่เฉียบขาด และความสามารถในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม
ในปี 2003 เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา ได้คว้าตัวกาก้าไปร่วมทีมด้วยค่าตัวประมาณ 8.5 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะในทันทีที่เขาย้ายมา เขาก็กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมในแดนกลาง ช่วยให้มิลานคว้าแชมป์เซเรีย อา ในฤดูกาล 2003/04 ได้อย่างงดงาม และในปี 2007 เขาได้พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูลในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนับเป็นช่วงพีคของอาชีพค้าแข้งของเขา และในปีเดียวกันนั้น กาก้าคว้ารางวัลบัลลงดอร์ และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า โดยเอาชนะคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่ ได้อย่างขาดลอย
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับมิลาน กาก้าย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริดในปี 2009 ด้วยค่าตัวราว 67 ล้านยูโร ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นหนึ่งในสถิติค่าตัวสูงสุดของโลก อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บเรื้อรังเริ่มส่งผลต่อฟอร์มของเขา ทำให้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างต่อเนื่องในสเปน แม้จะร่วมคว้าแชมป์ลาลีกา และโคปา เดล เรย์ กับทีมชุดขาว แต่หลายคนมองว่าช่วงเวลาที่เรอัล มาดริด ไม่ได้สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของเขา
ในปี 2013 กาก้าตัดสินใจกลับไปยังเอซี มิลาน เป็นครั้งที่สอง แต่ก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมกลับมาได้เต็มที่ ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับออร์แลนโด ซิตี้ ในเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับโลกกลุ่มแรก ๆ ที่ช่วยยกระดับฟุตบอลสหรัฐฯ จนกระทั่งเขาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2017 ด้วยวัย 35 ปี ปิดฉากอาชีพที่น่าจดจำไว้กับสถิติรวม 161 ประตูจากการลงสนาม 529 นัด รวมถึงติดทีมชาติบราซิล 92 นัด ยิงได้ 29 ประตู และเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแชมป์โลกปี 2002
หลังจากเลิกเล่น กาก้ายังคงโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอล โดยรับหน้าที่เป็นทูตของฟีฟ่า และทำงานวิเคราะห์ฟุตบอลให้กับรายการโทรทัศน์บางรายการ นอกจากนี้ เขายังร่วมงานกับองค์กรการกุศลและโครงการเพื่อเด็กยากไร้ในบราซิลและทั่วโลก ผ่านบทบาทของเขาในฐานะคริสเตียนที่เคร่งศาสนา
ในปี 2024 มีข่าวว่าเขาได้รับการทาบทามจากสหพันธ์ฟุตบอลบราซิลให้มีบทบาทด้านบริหารในอนาคต รวมถึงมีการพูดคุยถึงบทบาทในทีมสต๊าฟของทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กาก้ายังไม่ได้รับตำแหน่งทางการในสมาคมฟุตบอลอย่างเป็นทางการ เขายังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในบ้านเกิดของเขาที่เซาเปาโล ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ลูกสองคน และยังคงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อร่วมกิจกรรมฟุตบอลเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
ชีวิตของกาก้า นั้นถือเป็นแบบอย่างของนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพ เขายังคงเป็นแรงบันดาลใจของแฟนบอลรุ่นใหม่ และเป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิก ที่แฟนบอลทั่วโลกจะไม่มีวันลืม