ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ปฏิเสธการใช้ออปชั่นผู้เล่นซีซั่นหน้าเพื่อแปลงสู่การต่อสัญญาใหม่ระยะยาว 3 ปีกับ ไครี เออร์วิง ผู้เล่นจอมเก๋าด้วยมูลค่า 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย เออร์วิง มีเงื่อนไขในการใช้ออปชั่นผู้เล่นซีซั่นหน้าในการอยู่กับ แมฟเวอริกส์ อีก 1 ฤดูกาลด้วยมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทว่าล่าสุด “อีเอสพีเอ็น” เผยว่า แมฟเวอริกส์ เลือกจะไม่ใช้ออปชั่นผู้เล่นดังกล่าว และเปลี่ยนเป็นขยายสัญญายาวกับ เออร์วิง อีก 3 ปี มูลค่า 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยแล้วปีละ 39.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีโดยยังให้สิทธิ์ออปชั่นผู้เล่นซีซั่น 2027-28
การต่อสัญญาใหม่ดังกล่าวถือเป็นการซื้อใจผู้เล่นวัย 33 ปีที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายจากการเข้ารับการผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าด้านหน้าข้างซ้ายเมื่อ 3 มี.ค. และยังไม่สามารถกรอบเวลาว่า กลับมาเล่นได้ในฤดูกาลหน้าหรือเปล่า แต่ทีมมองโลกในแง่ดีว่าเขาจะกลับมาราว ม.ค. 2026
สำหรับ เออร์วิง ดีกรีแชมป์เอ็นบีเอ 1 สมัยไม่เคยเล่นถึง 65 เกมฤดูกาลปกตินับตั้งแต่ 2018-19 ที่อยู่กับ บอสตัน เซลติกส์ ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาบาดเจ็บที่แตกต่างกันไป และดราม่าเรื่องปฏิเสธฉีดวัคซีนโควิด โดยซีซั่น 2024-25 ลงแข่งให้ แมฟเวอริกส์ 50 เกมทำผลงานเฉลี่ย 24.7 แต้ม, 4.8 รีบาวด์, 4.6 แอสซิสต์ และ 1.3 สตีล ติดทีมออล-สตาร์หนที่ 9 จากการเล่น 14 ปีระดับอาชีพ
จากนั้นเขาถูกเทรดจาก บรูกลิน เน็ตส์ มาเล่นให้ แมฟเวอริกส์ เมื่อเดือน ก.พ. 2023 มีไฮไลต์คือร่วมพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอ็นบีเอ 2024 ด้วยผลงานเฉลี่ยโพสต์ซีซั่น 22.1 แต้ม และ5.1 แอสซิสต์
ทั้งนี้การเลือกต่อสัญญากับ เออร์วิง ยังส่งสัญญาณว่า แมฟเวอริกส์ มีเป้าหมายล่าแชมป์หลังผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ด้วยการเทรด แอนโธนี เดวิส จาก แอลเอ เลเกอร์ส แลก ลูกา ดอนชิช เมื่อ 4 เดือนก่อน
นอกจาก เออร์วิง แล้ว แมฟเวอริกส์ ยังเพิ่งต่อสัญญากับ ดาเนียล แกฟฟอร์ด ไป 3 ปีมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลุ้นใช้สิทธิดราฟต์ลำดับแรกคลาส 2025 โดยเลือกผู้เล่นมากศักยภาพอย่าง คูเปอร์ แฟล็กก์ เข้าสู่แฟรนไชส์
