การแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ 2025 (VNL 2025) รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม แอตลาส อารีนา เมืองลอดซ์ ประเทศโปแลนด์ รอบชิงชนะเลิศ เป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ ปี 2022 ระหว่าง อิตาลี เบอร์ 1 ของโลก แชมป์เก่า และแชมป์รายการนี้ 2 สมัย พบกับ บราซิล อันดับ 2 ของโลก ดีกรีรองแชมป์โลกล่าสุด และอดีตรองแชมป์รายการนี้ 3 สมัย (ปี 2019, 2021 และ 2022)
เริ่มเซตแรก บราซิลออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรง ตบเอาชนะไปก่อน 25-22 แต่หลังจากนั้น อิตาลีตั้งเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไล่เก็บ 3 เซตรวด ด้วยสกอร์ 25-18, 25-22 และ 25-22 ปิดแมตช์ด้วยชัยชนะ 3-1 เซต คว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีก สมัยที่ 3 ต่อจากปี 2022 และ 2024 ทาบสถิติสูงสุดของ สหรัฐอเมริกา
ขณะที่ บราซิล ต้องอกหักเป็น รองแชมป์ 4 สมัย ติดต่อกัน (2019, 2021, 2022, 2025) ซึ่งยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้เลย
โดยนัดนี้ เอคาเทรินา อันโตรโปวา ทำคะแนนสูงสุดให้อิตาลี 18 แต้ม และ มิเรียม ซิลลา ทำได้ 16 แต้ม ส่วน กาบี้ ทำแต้มสูงสุดของบราซิลจาก 15 คะแนน และ จูเลีย กัมบัตโต้ คูดิสส์ ทำได้ 12 คะแนน
จากผลชัยชนะนัดนี้ ทำให้ อิตาลี ได้คะแนนสะสมอันดับโลกเพิ่ม +5.44 คะแนน รวมเป็น 474.26 ยังคงครองอันดับ 1 ของโลกต่อไป ส่วน บราซิล คะแนนเหลือ 426.80 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของโลกตามเดิม
ส่วนผลรอบชิงอันดับ 3 โปแลนด์ เอาชนะ ญี่ปุ่น 3-1 เซต 25-15, 24-26, 25-16, 25-23 ทำให้โปแลนด์ คว้าอันดับ 3 เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งยังได้คะแนนสะสมอันดับโลกเพิ่ม +7.38 รวมเป็น 365.17 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของโลกตามเดิม ขณะที่ ญี่ปุ่น คะแนนลดลงเหลือ 348.27 ตกลงไปอยู่อันดับ 5 ของโลก
สรุปอันดับของการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2025
อันดับ 1 อิตาลี
อันดับ 2 บราซิล
อันดับ 3 โปแลนด์
อันดับ 4 ญี่ปุ่น
อันดับ 5 จีน
อันดับ 6 ตุรกี
อันดับ 7 เยอรมนี
อันดับ 8 สหรัฐอเมริกา
อันดับ 9 ฝรั่งเศส
อันดับ 10 เนเธอร์แลนด์
อันดับ 11 สาธารณรัฐเช็ก
อันดับ 12 โดมินิกัน
อันดับ 13 บัลแกเรีย
อันดับ 14 เบลเยียม
อันดับ 15 เซอร์เบีย
อันดับ 16 แคนาดา
อันดับ 17 ไทย
อันดับ 18 เกาหลีใต้ (ตกชั้น(
ส่วน รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมในตำแหน่งต่างๆ นักกีฬายอดเยี่ยม (MVP) : เปาลา อีโกนู (อิตาลี), หัวเสายอดเยี่ยม : จูเลีย เบิร์กมานน์ (บราซิล), มีเรียม ซิลล่า (อิตาลี), บอลเร็วยอดเยี่ยม : อักเนียสก้า คอร์เนลุก (โปแลนด์), จูเลีย คูดีส์ (บราซิล), ตัวรับอิสระยอดเยี่ยม : โมนิกา เด เจนนาโร่ (อิตาลี), เซตยอดเยี่ยม : อเลสเซีย ออร์โร่ (อิตาลี), บีหลังยอดเยี่ยม : เปาลา อีโกนู (อิตาลี)
