แอชลีย์ บาร์ตี อดีตนักเทนนิสหญืงมือ 1 โลกออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงในการที่เธออำลาวงการเทนนิสตอนอายุ 25 ปีเนื่องจากไม่มีเป้าหมายในการแข่งขันอีกต่อไป
สำหรับ บาห์ตี ประกาศแขวนแร็กเก็ตอย่างสุดช็อกในเดือนมีนาคม 2022 ในวัยเพียง 25 ปีซึ่งขณะนั้นเธอรั้งตำแหน่งมือ 1 ของโลกอยู่ด้วย
โดยแร็กเก็ตสาวจากออสเตรเลียออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจรีไทร์จากวงการ เนื่องจากเธอไม่มีแรงผลักดันทางร่างกาย และจิตใจ ในการท้าทายตัวเองไปสู่จุดสูงสุดอีกต่อไป พร้อมเตรียมหันไปทำตามความฝันได้ด้านอื่นๆ
ระหว่างที่ลงเล่นเทนนิสอาชีพ บาร์ตี ก็ได้ฝึกเล่นกอล์ฟไปด้วย และสามารถคว้าแชมป์ในรายการที่บ้านเกิดมาครอง ก่อนจะลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์พิเศษ ไอคอน ซีรีส์ ที่เป็นการรวมคนดังมาแข่งขันแบบทีมแมตช์เพลย์จำนวน 9 หลุมด้วย
โดย บาห์ตี ได้รับการจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการเทนนิสคนใหม่ต่อจากผู้เล่นดังอย่าง เซรานา วิลเลียมส์ เนื่องจากเธอเทิร์นโปรในปี 2010 ก่อนขึ้นมาสู่ตำแหน่งมือ 1 โลกในปี 2019 หรือตอนที่เธออายุ 23 ปี
นอกจากนั้นเจ้าตัวยังสามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครองได้ถึง 3 จาก 4 รายการตลอดอาชีพ ประกอบด้วย ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อปี 2022, เฟรนช์ โอเพ่น 2019 และวิมเบิลดัน 2021 ส่วนยูเอส โอเพ่น เธอได้รองแชมป์ในปี (2018, 2019)
และหากรวมแชมป์รายการอื่นๆ บาร์ตี ซิวโทรฟี่รวมทั้งหมด 12 รายการพร้อมสถิติชนะ 305 แมตช์ และแพ้ 102 แมตช์ หรือคิดเป็นอัตราชนะ 74.9%
อย่างไรก็ตามหลังจากคว้าแชมป์หลังวิมเบิลดัน บาร์ตี ได้ลงเล่นเพียง 3 ทัวร์นาเมนต์ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2021 ก่อนกลับมาแข่งขันอีกครั้งเมื่อต้นฤดูกาล 2022 เมื่อเธอคว้าแชมป์รายการต่อเนื่องกันที่ แอดิเลด อินเตอร์เนชันแนลและออสเตรเลียน โอเพ่น ก่อนประกาศแขวนแร็กเก็ตในช่วง 1 เดือนหลังจากนั้น
จนล่าสุด บาร์ตี ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการรีไทร์จากวงการเทนนิสในหนังสือของเธออย่าง “มาย ดรีม ไทม์” ว่า “ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังเล่นเพื่ออะไรอีกต่อไป ฉันคิดว่าฉันทำจบแล้ว ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีประกายไฟใดๆเลย”
นอกจากนั้น บาร์ตี ยังระบุเพิ่มเติมว่าเธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตในขณะนี้ “หกหรือเจ็ดเดือนล่าสุดของชีวิตฉัน คือทุกสิ่งที่ฉันเคยต้องการ ฉันรักวิถีชีวิตของฉันในขณะนี้ ฉันจะไม่เหินห่างจากโลกเทนนิส แต่ฉันจะไม่ออกไปที่นั่นอีกแล้ว”