ยิงประตูครบ 100 ลูกไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าสายเลือดปีศาจขนานแท้ ของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โขกประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เวสต์แฮม 1-0 เมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคม
มาร์คัส แรชฟอร์ด เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1997 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขามีพี่น้องถึง 5 คน แต่คุณแม่ของเขาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว นั่นทำให้ครอบครัวค่อนข้างมีฐานะไม่ค่อยสู้ดีนัก และคุณแม่ก็ต้องทำงานหนัก 3 เวลา บางครั้ง แรชฟอร์ด และพี่น้องก็ต้องอดมื้ดกินมื้อ เพราะครอบครัวไม่มีเงินมากพอ
แรชฟอร์ด นั้นชื่นชอบฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก เขาอายุเพียง 5 ขวบก็ได้เข้าไปฝึกฝนกับสโมสรเยาวชน เฟล็ตเชอร์ มอสส์ แรนเจอร์ส ทีมฟุตบอลท้องถิ่นที่มักจะปั้นนักเตะป้อนให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เวส บราวน์, แดนนี่ เวลเบ็ก และ เจสซี ลินการ์ด
แต่ แรชฟอร์ด ไม่ได้เล่นตำแหน่งศูนย์หน้ามาตั้งแต่แรก เขาเริ่มฝึกฝนในตำแหน่งผู้รักษาประตู โดยเล่าให้ฟังว่าเขาชื่นชอบ ทิม ฮาเวิร์ด อดีตผู้รักษาประตูชาวสหรัฐฯ ของแมนฯ ยู มากกว่า คริสเตียโน โรนัลโด หรือ ไรอัน กิกส์ เสียอีก
แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสลงไปแทนเพื่อนในสนาม และทำประตูได้ มันทำให้เขารู้สึกถึงความตื่นเต้น และความรู้สึกพิเศษ ที่ผู้รักษาประตูไม่เคยได้รับ จึงทำให้ในเวลาต่อมาเขาตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองมาเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า
แรชฟอร์ด ในวัย 7 ขวบได้รับความสนใจจากลิเวอร์พูล และเอฟเวอร์ตัน ด้วยในตอนแรก แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณพี่ชายของเขาเสมอ ที่ช่วยโน้มน้าวให้เลือกมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหลังจากเขาฝึกฝนเป็นเยาวชนของ แมนฯ ยูมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี
แรชฟอร์ด ก็ได้รับสัญญาอาชีพในวัย 18 ปี และมีชื่อติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล เกมที่ แมนฯยู เอาชนะ วัตฟอร์ด 2-1 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015
แรชฟอร์ด เป็นนักเตะที่มีความเร็วสูง ไปกับบอลได้ดี ทั้งยังรูปร่างสูงยาว ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนๆแทบจะทันทีที่ได้รับโอกาสลงสนาม ไม่นานก็ค่อยๆได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามบ่อยขึ้น จนกลายเป็นตัวหลักของทีมเรื่อยมา โดยปีแรกที่ขึ้นมานั้น เขายิงไป 8 ประตู จาก 18 นัดรวมทุกรายการ ทั้งยังคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ กับทีมอีกด้วย
แม้ว่าเวลาต่อมาทีมจะเปลี่ยนเฮดโค้ชเป็น โฮเซ มูรินโญ หรือจะเป็น โอเล กุนนาร์ โซลชา แต่ แรชฟอร์ด ก็ยังเป็นศูนย์หน้ากึ่งปีก ที่ได้รับเลือกให้ลงสนามเป็นอันดับแรกๆอยู่เสมอ นอกจากแชมป์เอฟเอ คัพ ในปีแรกที่ก้าวขึ้นมาแล้ว ยังมี แชมป์ ลีกคัพ, แชมป์ คอมมูนิตี ชิลด์ และแชมป์ ยูโรป้า ลีก ปัจจุบันเขาลงสนามให้ทีมไปแล้ว 318 นัด ทำไปแล้ว 100 ประตูพอดิบพอดี
ในส่วนของทีมชาติอังกฤษ แรชฟอร์ด ติดทีมเยาวชนทุกชุด ก่อนจะก้าวขึ้นชุดใหญ่ในปี 2016 ด้วยวัยเพียง 19 ปี ปัจจุบันเขารับใช้ทีมชาติไปแล้ว 46 นัด ยิงไป 12 ประตู
ติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 , คว้าอันดับ 3 ศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ปี 2020-21 และคว้ารองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020
เชื่อเหลือเกินว่าจากนี้ แรชฟอร์ด จะยังเป็นคนสำคัญที่คอยสร้างสถิติของตัวเอง และกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป ในฐานะนักเตะสายเลือดปีศาจขนานแท้ ที่แฟนบอล ปีศาจแดง หวงแหนเป็นที่สุด
