วงการลูกหนังทั่วโลกต้องเศร้าสลดกันอีกครั้งต่อการจากไปของ เปเล่ ตำนานนักเตะทีมชาติบราซิล ที่สิ้นใจลงด้วยโรคมะเร็ง ด้วยวัย 82 ปี
เอดิสัน อรันเตส โด นาสซิเมนโต้ หรือ “เปเล่” เกิดเมื่อเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1940 ที่เมืองเตรส โคราคอส ในประเทศบราซิล
พ่อของเขาตั้งตามชื่อของ โทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟ เนื่องจาก ไฟฟ้า เพิ่งเข้าถึงชุมชนที่อาศัยอยู่ แต่เจ้าตัวชอบชื่อ “เอ็ดสัน”มากกว่า
พ่อของเปเล่ เป็นนักฟุตบอลที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก เรียกว่าเป็น บอลเดินสายก็ว่าได้ โดย เปเล่ ในวัย 4 ขวบต้องย้ายเมืองไปอยู่ที่ เบารู ตามที่ที่พ่อถูกเรียกตัวไปเล่นให้ และที่นี่พ่อของเขาได้งานเป็นหลักเป็นแหล่งมากขึ้น
เอ็ดสัน ถูกเรียกว่า เปเล่ เนื่องจากเขามี “บิเล่” ผู้รักษาประตูของทีม วาสโก ดา กามา เป็นไอดอล แต่เจ้าตัวดันเรียกไอดอลว่า “ปีเล่” จนเพื่อนๆ ล้อ และเรียกเขาว่า “เปเล่” ซึ่งทำให้เขายัวะ และ มีเรื่องชกต่อยเพื่อนในโรงเรียนจนถูกพักการเรียน แม้จะไม่ชอบนัก แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ เอ็ดสัน กลายเป็น เปเล่ ไปตลอดกาล
ถึงจะพอตั้งหลักได้ แต่ครอบครัวเปเล่ ก็ถือว่ายังยากจน เขาในฐานะพี่ชายคนโต ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยทางบ้านหาเงิน ทั้ง ขายฟืน ขายม้วนบุหรี่ ขโมยถั่วของชาวบ้านมากิน หรือไม่ก็ไปรับจ้างขัดรองเท้า
และงานขัดรองเท้านี่เองที่ทำให้ เปเล่ ได้สัมผัสเริ่มฟุตบอลตามอย่างคุณพ่อ เนื่องจากเขาได้รับจ้างขัดรองเท้าให้กับนักฟุตบอลทีมเบารู แอตแลติก
โดย พ่อของเปเล่ เป็นคนขัดเกลาฝีเท้าของลูกชายด้วยตัวเอง เรียกได้ว่า เริ่มจากการเป็นนักบอลข้างถนนก็ว่าได้ เพราะเริ่มด้วยการนำถุงเท้ามาม้วนเป็นวงกลม ห่อกระดาษ หนังยางมัดแทนลูกฟุตบอล จากนั้นอายุ 11 ตั้งทีมฟุตบอล “นักเตะไร้รองเท้า”และลงแข่งในรายการ ประจำเมือง และ คว้าแชมป์มาครองได้ โดยเปเล่เป็นนักเตะที่ยิงมากที่สุดในรายการ
ฝีเท้าเข้าตา วัลเดอมาร์ เดอ บริโต้ นักเตะในลีกสูงสุดของบราซิล ที่ดึงเปเล่ และเพื่อนๆของเขาเข้าทีม “บาควินโย่” และเป็นครั้งแรกที่ เปเล่ ได้เงินจากการเล่นฟุตบอล นอกจาก ผลงานของเปเล่ ยังเปรี้ยงปร้างขึ้นเรื่อย
เมื่ออายุ 15 ปี เขาถูกส่งไปทดสอบฝีเท้า ที่สโมสรซานโตส และผู้บริหารสโมสรประทับใจตั้งแต่แรกเห็น จนถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ใน บราซิล ดึงตัวไป
จากนั้นไม่นาน เปเล่ ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล ประเดิมนัดแรกกับ อาร์เจนติน่า ในปี 1957 และถูกเรียกติดทีมชาติ เข้าแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งแรก ในฟุตบอลโลกปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน โดยเปเล่ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์
ซึ่งเจ้าหนูเปเล่ สร้างชื่อกระหึ่มโลก ด้วยการยิง ทีมชาติเวลส์ กลายเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้ลงเล่นในรอบสุดท้ายของถ้วยฟุตบอลโลก โดยมีสถิติอายุเพียง 17 ปี 249 วัน ต่อเนื่องด้วยการทำแฮตทริกใส่ ฝรั่งเศส เป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้ในฟุตบอลโลก
และพา ทีมชาติ บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยแรก ด้วยการเอาชนะ สวีเดน 5-2
ในอีก 4 ปีถัดมา เปเล่ แม้จะไม่ฟิตนัก ในฟุตบอลโลก 1962 ที่ชีลี โดยลงเตะไปได้แค่ 1 นัดแต่บราซิล ก็คว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นสมัยที่ 2
ถึงเวลานี้ เปเล่ กลายเป็นนักเตะหมายเลข 1 ของโลกในเวลานั้น และได้รับความสนใจจากทีมในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุสด้วย แต่แล้วรัฐบาลบราซิลก็ประกาศให้เปเล่นั้นเป็น “สมบัติของชาติ” เพื่อป้องกันมิให้เปเล่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศอื่น และต้องเล่นกับ ซานโตส ต่อไป ซึ่งที่นี่ เปเล่ คว้าแชมป์ลีก บราซิล ถึง 6 สมัย
ฟุตบอลโลกปี 1966 ที่อังกฤษ เปเล่ ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน เขาทำประตูในเกมกับบัลแกเรีย สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะคนแรกที่สามารถทำประตูได้ในการลงแข่งฟุตบอลโลกทั้ง 3 ครั้ง แต่สุดท้าย บราซิลตกรอบแรก
ฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก เปเล่ กลับมาฟิตเปรียะ เขาพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกเป็นปีที่ 3 โดยสามารถเอาชนะทีมชาติอิตาลีไปได้ 4 – 1
ปีถัดมา เปเล่ ในวัย 31 ปีประกาศเลิกเล่นทีมชาติ และอีก 3 ปีถัดมา เปเล่ ประกาศยุติชีวิตการเป็นนักเตะลงในวัย 34 ปี เมื่อปี ค.ศ. 1974 แต่ไม่นานก็เปลี่ยนใจ กลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งใน ในลีกอเมริกาเหนือ 2 ฤดูกาลด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปี มูลค่า 7 ล้านดอลลาร์ กับ นิวยอร์ก คอสมอส ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มหาศาลในเวลานั้น และคิดตามเงินเฟ้อเป็นเงินกว่า 42 ล้านเหรียญสหรัฐ ในวันนี้
ฟุตบอลในสหรัฐ คึกคักขึ้นมาทันที เปเล่ก็สามารถพาทีมคอสมอสคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลที่ 1977 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สามและเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่เขาเล่นให้กับทีมนิวยอร์ก คอสมอส
1 ตุลาคม ค.ศ. 1977 เปเล่ปิดฉากอาชีพอันเป็นตำนานของเขาด้วยการการลงเล่นฟุตบอลนัดสุดท้ายในชีวิตของเปเล่คือนัดพิเศษระหว่างทีมคอสมอสและทีมซานโตส
ด้านชีวิตครอบครัว เปเล่ แต่งงานกับ โรสแมรี่ โคลบี้ ในปี ค.ศ. 1966 มีลูกด้วยกัน 3 คน และแต่งงานครั้งที่ 2 ในวัย 53 ปี กับอัสซีเรีย ซีซัส เลมอส อายุ 36 ปี และมีลูกด้วยกันสองคน
เรื่องราวชีวิตของเปเล่ ยังอยู่ในสื่อเป็นระยะๆ โดย เปเล่ ยืนยันว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูมากที่สุดจากการยิงมากกว่า 1000 ประตู เหนือว่า คริสเตียโน โรนัลโด แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตำนานก็ปิดฉากลงเมื่อหลัง เปเล่ ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นเวลานาน
แม้ร่างกายของ เปเล่ จะจากไป แต่ชื่อเสียง และเรื่องราวอันเป็นตำนานของเขาจะตราตรึงอยู่กับโลกลูกหนังต่อไปตลอดกาล
