บราฮิม ดิอาซ ถือเป็นเพลย์เมกเกอร์ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นแนวรุกคนสำคัญของ เอซี มิลาน ในปัจจุบัน ซึ่งการมาค้าแข้งในถิ่นซานซิโร ตั้งแต่ฤดูกาล 2020/21 เปรียบเสมือนเป็นการเกิดใหม่ของเขาก็ว่าได้
บราฮิม อับเดลคาเดอร์ ดิอาซ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 1999 เมืองมาลาก้า ประเทศสเปน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว สมัยเด็กนั้นเขามักจะวิ่งเล่นกับเพื่อน และเรียนรู้วิธีการเตะฟุตบอลในเมืองท่าของสเปน
ความรักในกีฬาฟุตบอลของ ดิอาซ ทำให้พ่อแม่ของเขาส่งลูกชายเข้าร่วมกับอคาเดมีของ มาลาก้า เพื่อวางรากฐานไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพระดับโลก
ชีวิตในอะคาเดมีเป็นเรื่องสนุก และบราฮิมตัวน้อยต้องเสียสละมากมายเพื่อพัฒนาฝีเท้า และฝึกนิสัยความรับผิดชอบในการเป็นนักฟุตตบอลชีพ เมื่อวันเวลาผ่านไป ด้วยพรสวรรค์ก็ทำให้ ฝีเท้าของเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในอคาเดมี แม้จะมีทั้งแรงกดดัน และความคาดหวังส่งมาถึง แต่เขาก็รับมือกับมันได้ดี
บราฮิม ดิอาซ ได้รับเสื้อหมายเลข 10 ของทีมเยาวชนมาลาก้า เขากลายเป็นคนดัง และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นจากความคาดหวังของแฟนบอลที่ต้องการให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของทีมชุดใหญ่ในอนาคต แต่ด้วยชื่อเสียงในหมู่ดาวรุ่งที่น่าจับตา ทำให้ในปี 2015 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมจ่ายเงิน 200,000 ปอนด์ คว้าตัวเขาไปปลุกปั้นต่อ กระทั่งปี 2016 เขาก็ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกเป็นเวลา 3 ปี
อย่างไรก็ตาม หลังจากอยู่เกือบครบสัญญา ดิอาซ ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นนักเตะตัวจริงของสโมสรได้ และสโมสรเองก็ไม่สามารถการันตีตำแหน่งให้กับเขาเช่นกัน ประจวบเหมาะกับ เรอัล มาดริด ที่ติดต่อเข้ามาทำให้ แมนฯซิตี้ ขายเขาไปด้วยราคา 15.5 ล้านปอนด์
หลังจากย้ายกลับมาสเปน ดิอาซ ยังคงไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าไหร่นัก หลังจากผ่านไป 2 ฤดูกาล เรอัล มาดริด ก็ปล่อยให้ เอซี มิลาน ยืมตัว ดิอาซ ไปใช้งาน
บราฮิม ดิอาซ ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องที่นี่ เขาค่อยๆพัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น และเมื่อได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ก็มีฟอร์มที่ดีวันดีคืน ทำให้ มิลาน ยืมตัวเขามาเล่นให้กับทีมเป็นเวลา 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว ทั้งยังมีส่วนสำคัญช่วยให้ มิลาน คว้าแชมป์ เซเรีย อา ในปี 2021/22 ด้วย
ด้วยฟอร์มที่ดีขนาดนี้ ต้องรอดูว่า ฤดูกาลหน้า เรอัล มาดริด จะเก็บเขาไว้ใช้งาน หรือ เอซี มิลาน จะดึงตัวเขาไปร่วมทีมเป็นการถาวร แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ดิอาซ ก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมนั้นอย่างแน่นอน