ข่าววอลเลย์บอล

FIVB ยกพลลงใต้เดินสายตรวจสนามต่อเนื่อง – ยกย่อง ภูเก็ต เหมาะสมจัดชิงแชมป์โลก

FIVB ยกพลลงใต้

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบสนามแข่งขันและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 หลังจากก่อนหน้านี้เดินทางไปสำรวจที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดเชียงใหม่ มาแล้ว

 โดยครั้งนี้มีนายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ กรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ประเภทผู้แทนสมาคมกีฬาจังหวัดและนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต, นายธนาวุฒิ เพ็ชรชระ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต, นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ณ ยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายสมพร กล่าวว่า การได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ถือเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการแสดงศักยภาพด้านการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีศักยภาพในการรองรับการแข่งขันกีฬาในระดับสูง นอกจากจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) แล้ว ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านกีฬาและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ทัดเทียมกับระดับสากล

เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ผู้แทนจาก FIVB พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงกำหนดให้มีการตรวจสอบความพร้อมของสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อมในช่วงวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประเมินสถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งเบื้องต้นก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ลงพื้นที่สำรวจเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 และพิจารณาแล้วว่ายิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน มีความเหมาะสมและสามารถรองรับการแข่งขันระดับนานาชาติได้ โดยเฉพาะในเรื่องของพื้นที่สนาม ระบบไฟส่องสว่าง ห้องพักนักกีฬา รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่จำเป็น

FIVB ยกพลลงใต้

สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่จังหวัดภูเก็ตจะเป็นการแข่งขันในรอบแรก ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 27 สิงหาคม 2568 โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 สาย ได้แก่ สายบี ประกอบด้วย อิตาลี, เบลเยียม, คิวบา และสโลวาเกีย ส่วนสายจี ประกอบด้วย โปแลนด์, เยอรมนี, เคนยา และเวียดนาม ซึ่งทีมที่สามารถทำผลงานได้ดีในรอบนี้จะผ่านเข้าสู่รอบถัดไปของการแข่งขัน

ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้นอกจากจะเป็นโอกาสสำคัญของวงการวอลเลย์บอลไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากคาดว่าจะมีนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ทีมงาน รวมถึงแฟนวอลเลย์บอลจากทั่วโลกเดินทางมาเข้าชมและเชียร์การแข่งขันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ในจังหวัด นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้เยาวชนไทยได้สัมผัสกับการแข่งขันในระดับโลกอย่างใกล้ชิด และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ในการพัฒนาฝีมือเพื่อก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติในอนาคต

สำหรับขั้นตอนต่อไป หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบสนามแข่งขันในครั้งนี้ ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงและเตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนการแข่งขันจริง ซึ่งจะรวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาและผู้เข้าร่วมงาน โดยเป้าหมายคือให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่นและได้รับการยอมรับในระดับสากล

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top