กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 รายการ เอฟไอวีบี วอลเลย์บอล วูเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนส์ชิพ 2025 (FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ใน 4 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และนครราชสีมา โดยมี 32 ทีมจาก 5 ภูมิภาคทั่วโลกเข้าร่วมชิงชัย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศมากกว่า 8,500 ล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า การที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก FIVB 2025 สะท้อนศักยภาพของประเทศทั้งในด้านการจัดอีเวนต์กีฬา ความนิยมในกีฬาวอลเลย์บอล และความสามารถของทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ในอันดับท็อป 15 ของโลกอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายสรวงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า ฐานแฟนคลับวอลเลย์บอลไทยมีความแข็งแกร่งทั่วประเทศ การจัดการแข่งขันครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นโอกาสในการส่งเสริมกีฬา แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่เวทีโลก โดยคาดว่าจะมีผู้ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดกว่า 1,300 ล้านคนทั่วโลก ผ่าน VBTV และ YouTube ของ Volleyball World
ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การแข่งขัน FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025 สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ภายใต้ปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” โดยเน้นการผสานกีฬาและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน
โดยยืนยันว่า ไทยมีความพร้อมทั้งในด้านสนามแข่งขัน การคมนาคม ที่พัก และบุคลากร ตลอดจนมีประสบการณ์การจัดงานระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง การจัดการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองต่างๆ และเสริมรายได้ให้แก่ชุมชนในวงกว้าง
สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 จะจัดแข่งขัน 4 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และนครราชสีมา มี 32 ทีม เข้าร่วมแบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ แอฟริกา 3 ทีม, เอเชีย 4 ทีม, ยุโรป 16 ทีม, อเมริกาเหนือ-กลาง และแคริบเบียน (NORCECA) 6 ทีม, อเมริกาใต้ 3 ทีม
โดย การแข่งขันเริ่มต้นด้วยรอบแบ่งกลุ่ม (Pool Phase) ระหว่างวันที่ 22–27 สิงหาคม 2568 ใน 4 จังหวัด ก่อนเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ที่กรุงเทพฯ วันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน ตามด้วยรอบก่อนรองฯ วันที่ 3–4 กันยายน, รอบรองฯ วันที่ 6 กันยายน และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 7 กันยายน 2568