คาเมรอน นอร์รี นักเทนนิชายมือ 1 ของสหราชอาณาจักรยืนยันว่าตัวเองจะลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์พิเศษาที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในเดือนหน้าเหมือนเดิม แม้จะโดนวิจารณ์ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ นอร์รี แร็กเกตมือวางอันดับ 14 ของโลกจากสหราชอาณาจักร ยืนยันว่าจะเข้าร่วมแข่งขันในศึกเทนนิสรายการ ดิริยาห์ เทนนิส คัพ ที่เมืองดิริยาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายนนี้
นอกจาก นอร์รี แล้วยังมีนักเทนนิสมือดังของโลกอีก 11 รายประกอบด้วย ดานิอิล เมดเวเดฟ มือ 5 ของโลกจากรัสเซีย, อเล็กซ์ซานเดอร์ ซเวเรฟ มือ 12 ของโลกจากเยอรมนี, โดมินิก ธีม มือ 102 ของโลกจากออสเตรีย และสแตน วาวรินกา มือ 150 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ของ นอร์รี นั้น ส่งผลให้นักหวดวัย 27 ปีโดนองค์กรแอมนาสตี้ องค์กรป้องกัน และยุติการทำร้ายสิทธิมนุษยชน ออกมาวิจารณ์ เนื่องจากพวกเขามองว่า ซาอุดีอาระเบีย คือประเทศที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก
“เราจะไม่บอกคนอย่าง คาเมรอน นอร์รีว่า พวกเขาควร หรือไม่ควรเล่นเทนนิสที่ไหน แต่เมื่อปรากฏตัวใน ดาริยาห์ คาเมรอนควรตระหนักว่าเขาได้รับการว่าจ้างอย่างจงใจให้เข้าร่วมในการชุมนุมล่าสุดของการล้างบางกีฬาของ ซาอุดีอาระเบีย”
“ทุกคนที่เล่นใน ดิริยาห์ จะตระหนักดีว่าการแข่งขันเทนนิสครั้งนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของซาอุดีอาระเบียที่พยายามล้างสถิติด้านสิทธิมนุษยชนที่เปื้อนเลือด” เฟลิกซ์ จาเคนส์ หัวหน้าฝ่ายรณรงค์จัดลำดับความสำคัญของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล สหราชอาณาจักร กล่าว
ทว่าล่าสุด นอร์รี ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ในเรื่องนี้ โดยระบุว่า เขาต้องการโฟกัสแค่เรื่องการเล่นเทนนิสเท่านั้น “ผมไม่ใช่นักการเมือง และผมรู้สึกว่าไม่สมควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของรัฐบาล หน้าที่ของผมคือ การเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ และงานนี้ทำให้ผมได้ฝึกกับผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอในการคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น ปีหน้า”
ทั้งนี้การแข่งขัน ดิริยห์ เทนนิส คัพ นั้นจะกลับมาแข่งขันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนในปีนี้จะกลับมาทำการชิงชัยกันอีกครั้ง เพื่อสานต่อความสำเร็จชองทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซึ่งมี เมดเวเดฟ เป็นแชมป์เก่า และจะมาลงป้องกันแชมป์ด้วย
