จาร์ราด แบรนธ์เวต เป็นหนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยความสูง 195 ซม. และสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง ทำให้เขากลายเป็นหัวใจสำคัญของแนวรับเอฟเวอร์ตัน รวมถึงได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้งในอังกฤษและยุโรป
จาร์ราด แบรนธ์เวต เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2002 ที่เมืองคาร์ไลล์ ประเทศอังกฤษ เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่สนับสนุนเรื่องฟุตบอลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคุณพ่อของเขาที่เป็นแฟนฟุตบอลตัวยง และเป็นผู้ที่ผลักดันให้เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย ความหลงใหลในเกมลูกหนังทำให้ แบรนธ์เวต เข้าสู่ระบบเยาวชนของ คาร์ไลล์ ยูไนเต็ด สโมสรในลีกล่างของอังกฤษเมื่ออายุเพียง 8 ปี
ในช่วงที่อยู่กับทีมเยาวชนของคาร์ไลล์ ยูไนเต็ด แบรนธ์เวต พัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มต้นจากการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ก่อนที่โค้ชจะมองเห็นศักยภาพทางกายภาพและปรับบทบาทให้เป็นเซ็นเตอร์แบ็กเต็มตัว ด้วยส่วนสูงที่โดดเด่น การอ่านเกมที่ดี และความสามารถในการครองบอลที่มั่นใจ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่น่าจับตามองของอะคาเดมี จนได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของคาร์ไลล์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2018/19 ขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปี
ในฤดูกาล 2019/20 แบรนธ์เวต ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ และเริ่มได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในอังกฤษ จนกระทั่ง เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 ด้วยค่าตัวประมาณ 1 ล้านปอนด์ และแม้ว่าจะย้ายมาอยู่กับทีมระดับพรีเมียร์ลีก แต่ แบรนธ์เวต ต้องใช้เวลาในการปรับตัวและได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุด ยู-23 ก่อนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของเอฟเวอร์ตันในขณะนั้น จะมอบโอกาสให้เขาประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในเกมพบกับแอสตัน วิลล่าในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020
ช่วงฤดูกาล 2021/22 เอฟเวอร์ตันตัดสินใจปล่อย แบรนธ์เวต ให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สโมสรดังในเนเธอร์แลนด์ ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้เขาเติบโตขึ้นอย่างมาก การได้ลงเล่นใน เอเรดิวิซี ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ทำให้ แบรนธ์เวต ได้เรียนรู้สไตล์ฟุตบอลที่แตกต่างไปจากอังกฤษ เขาได้รับคำชมเรื่องการเล่นบอลกับพื้นได้ดีขึ้น รวมถึงพัฒนาทักษะการยืนตำแหน่งและการรับมือกับแนวรุกที่หลากหลายมากขึ้น
หลังจากกลับมาเอฟเวอร์ตันในฤดูกาล 2023/24 เป็นต้นมา แบรนธ์เวต สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ โดยเขากลายเป็นคู่หูในแนวรับของ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ และมีบทบาทสำคัญอย่างมาก จุดเด่นของเขาคือการเล่นลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่ง การเข้าสกัดที่แม่นยำ และความสามารถในการเล่นบอลออกจากแนวรับ ทำให้หลายสโมสรยักษ์ใหญ่จับตามอง โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด ที่มีข่าวว่าสนใจคว้าตัวเขาในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ
ในส่วนของทีมชาติ แบรนธ์เวต ก็มีโอกาสก้าวขึ้นปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว หลังจากถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุด ยู-21 ในปี 2023 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักเตะดาวรุ่งอย่าง แบรนธ์เวต
ปัจจุบัน แบรนธ์เวต ยังคงเป็นแกนหลักที่แข็งแกร่งของ เอฟเวอร์ตัน ทั้งยังมีพัฒนาการที่น่าติดตาม และหากเขายังคงรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่แน่ว่าในไม่ช้า เขาอาจกลายเป็นหัวใจสำคัญของแนวรับทีมชาติอังกฤษ และอาจได้ย้ายไปเล่นให้สโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปก็เป็นได้