ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เดินทางไปยื่นตัวบท กราบเรียนถึง นายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ในความ(23) บัญชีแนบท้ายประเภท ข เพื่อให้นำกีฬาสนุกเกอร์และกีฬาบิลเลียดออกจากพระราชบัญญัติการพนัน
ดร.ณัฏฐ์ เปิดเผยว่า “ภายหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการจัดตั้งรัฐบาล และมีกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าครบองค์ประกอบที่จะเสนอตัวบทร่าง พระราชบัญญัติ การพนัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….โดยได้กราบเรียนอย่างเป็นทางการถึง นายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา กล่าวต่ออีกว่า “โดยพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสม กล่าวคือ ในปัจจุบันนี้ได้กำหนดให้การเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์เป็นกีฬาอาชีพตามประกาศของคณะกรรมการกีฬาอาชีพซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 อันมีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมกีฬาอาชีพให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับนานาประเทศ ให้กำหนดมาตรการคุ้มครอง ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนานักกีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาอาชีพอย่างชัดเจน โดยกำหนดมาตรฐานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬาอาชีพให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานกีฬาอาชีพในประเทศไทย อีกทั้ง ยังเป็นประเภทและชนิดกีฬาตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ซึ่งจัดให้มีการแข่งขันกีฬาภายในประเทศและระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ กีฬาซีเกมส์ กีฬาเอเชียนเกมส์ กีฬาสมัครเล่นชิงแชมป์โลก และกีฬาชิงแชมป์โลก ทั้งในระดับเยาวชนและระดับประชาชน”
ดร.ณัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว ประกอบกับเพื่อมิให้การเล่นกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์เป็นการเล่นที่สามารถจัดให้มีการเล่นการพนันได้ อาจจะก่อให้เกิดการเสพติดการพนัน อันจะนำมาสู่ปัญหาทางด้านสังคม อาชญากรรม และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 เพื่อกำหนดให้การเล่นกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์ไม่ใช่การเล่นที่จะจัดให้มีการพนันกันตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ยกเลิกความใน (23) ของบัญชี ข ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 จึงกราบเรียนมายังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโปรดนำร่างพระราชบัญญัติเข้าสู่กระบวนการให้ความเห็นชอบตามกรอบของกฎหมายและกลไกในระบบรัฐสภาต่อไป”