ดาริโอ เอสซูโก เป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ได้รับความชื่นชมว่ากำลังมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ด้วยพละกำลัง ความแข็งแกร่ง และสไตล์การเล่นที่ดุดัน ทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำ โดยล่าสุดเชลซีได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวเขาจากสปอร์ติง ลิสบอน และพร้อมจะผลักดันให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก
ดาริโอ เอสซูโก เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2005 ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เขามีเชื้อสายแองโกลา และเติบโตมากับความหลงใหลในฟุตบอลตั้งแต่เด็ก โดยเข้าร่วมอคาเดมีของสปอร์ติง ลิสบอนตั้งแต่อายุเพียง 8 ปี ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกเยาวชนที่สร้างนักเตะระดับโลกมาแล้วมากมาย รวมถึงคริสเตียโน โรนัลโด, บรูโน แฟร์นานเดส และชูเอา ปาลินญา
เอสซูโกสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสปอร์ติงเมื่อเขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 16 ปี ในเกมพบกับวิตอเรีย กิมาไรส์ เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2021 จากนั้นเขาค่อยๆ ได้รับโอกาสมากขึ้นและเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเล่นของสโมสร ฤดูกาล 2023/24 ถือเป็นปีที่เขาฉายแววอย่างเต็มตัวกับทีมชุดใหญ่ โดยลงสนาม 23 นัดรวมทุกรายการ และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมลุ้นแชมป์ลีกโปรตุเกส
อย่างไรก็ตามเพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างต่อเนื่องทำให้ ในฤดูกาล 2024/25 เอสซูโก ถูกปล่อยไปให้กับ ลาส ปัลมาส ในลาลีก้า สเปน ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่ง เอสซูโก ก็ยังคงมีฟอร์มที่ยอมรับ และมีพัฒนาการของฝีเท้าที่น่าชื่นชม จึงทำให้ เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก อังกฤษให้ความสนใจเขาอย่างจริงจัง และบรรลุข้อตกลงคว้าตัวเอสซูโกได้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 ด้วยค่าตัวราว 18.5 ล้านปอนด์ โดยเขาจะย้ายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งการมาของเขาจะช่วยเสริมแกร่งให้แดนกลางของเชลซี โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ที่ตอนนี้มีมอยเซส ไกเซโด และเอ็นโซ เฟร์นานเดซ เป็นตัวหลักอยู่แล้ว
สไตล์การเล่นของเอสซูโกโดดเด่นในเรื่องพละกำลัง การเข้าสกัดบอลที่หนักแน่น และความสามารถในการคุมเกมแดนกลาง แม้อายุยังน้อย แต่เขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในสนาม และมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปเป็นกองกลางตัวรับระดับท็อปของยุโรป นอกจากนี้ เขายังมีจุดเด่นในเรื่องความสามารถในการเลี้ยงบอลและการพาบอลขึ้นหน้า ซึ่งทำให้เขาไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่ทำลายเกมรุกของคู่แข่ง แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นตัวขับเคลื่อนเกมของทีมได้อีกด้วย
ในระดับทีมชาติ เอสซูโกเคยเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสในระดับเยาวชนมาตลอด และเป็นกำลังหลักของทีมชุดอายุไม่เกิน 19 ปี โดยเขามีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคตอันใกล้
อนาคตของเอสซูโกกับเชลซีเต็มไปด้วยความคาดหวัง แฟนบอลต่างรอดูว่าเขาจะสามารถปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้เร็วแค่ไหน และจะสามารถพัฒนาไปถึงระดับเดียวกับกองกลางตัวรับชั้นนำของยุโรปได้หรือไม่