นายอำนาจ ชยานุรักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติไทย รายงานความเคลื่อนไหวของการแข่งขันกีฬาคิวสปอร์ตชิงชัย 10 เหรียญทอง ที่ห้างอิออน 2 ฮอลล์ 3 กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยในวันที่สี่ของเกมแข่งขัน ทีมสนุกเกอร์ประเภทชายคู่ 6 แดง ที่จัด วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” คู่กับ กฤษณัส เลิศสัตยาทร หรือ “นุ้ก สงขลา” เจอกับทีมเมียนมาในรอบ 8 คู่
เกมเริ่มคู่สนุ้กไทยตามหลังเมียนมาร์ 0-2 ก่อนที่ นุ้ก สงขลา ออกมากดไม้เดียวไล่ขึ้นมา 1-2 แต่ทางเมียนมาวางเกมดีและเป็นฝ่ายแทงเก็บเฟรมสี่ขึ้นนำ 3-1 แต่หลังจากนั้นคู่ของต๋องกับนุ้ก สงขลา พลัดกันแทงคนละไม้เอาชนะไป 3 เฟรมรวดพลิกชนะเมียนมาร์ 4-3 เฟรม 8-44, 14-47, 51-0, 22-42, 58-14, 33-29, 44-17 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเจอกับมาเลเซีย
ในรอบรองชนะเลิศเวลา วัฒนา ภู่โอบอ้อม กับ กฤษณัส เลิศสัตยาทร ลงเล่นกับ โม คีน โฮ กับ ลิ้ม ก๊ก เหลียง เปิดฉากเฟรมแรก โม คีน โฮ ออกมากดไม้เดียวเมื่อ นุ้ก สงขลา ออกมากันพลาด มาเลย์ขึ้นนำ 1-0 และนำไทยห่างเป็น 2-0 หลังจากนั้นทาง ลิ้ม ก๊ก เหลียง แทงพลาดถูก นุ้ก สงขลา ออกมากดไม้เดียว 49 แต้มไล่มา 1-2 ก่อนที่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย จะออกมากดไม้เดียวเฟรมสี่ไล่มาเสมอคู่มาเลย์ 2-2 ก่อนที่ทางคู่ของไทยประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถเอาชนะคู่ของมาเลเซียได้ 4-2 เฟรม 0-67, 18-34, 49-8, 58-6, 57-14, 35-28 ส่งผลให้ทีมสนุกเกอร์คู่ไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศกับสปป.ลาว
ภายหลังจบการแข่งขัน วัฒนา ภู่โอบอ้อม กับ กฤษณัส เลิศสัตยาทร กล่าวพร้อมกันว่า วันนี้พยายามที่จะคุยกันทุกช๊อต เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบการเล่น ต้องยอมรับว่าในช่วงของรอบ 8 คนสุดท้าย ช่วง 2 เฟรมแรกเจอกับเมียนมาร์ ยังออกคิวไม่ค่อยดีนัก จนสามารถพิสัยกรรมกลับมาชนะ 4 ต่อ 3 และเข้ามาถึงรอบชิงจะได้เจอกันมาเลเซีย ก็วางแผนกันอย่างดี จนสามารถเอาชนะคู่ของมาเลย์ได้ในที่สุด สำหรับเล่นในรอบชิงชนะเลิศกับทางสปป.ลาว เล่นตามเกมเหมือนกับเจอกันมาเลเซีย หวังจะคว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยสอยคิวเป็นเหรียญแรกสำหรับสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ตั้งความหวังของทัพสอยคิวไทย ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ไว้ที่ 1 เหรียญทอง