เป็นอีกทีมจากเอเชีย ที่ทำผลงานได้เซอร์ไพรส์ และน่าประทับใจแบบสุดๆ สำหรับทัพ “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ที่พลิกแซงชนะ เยอรมนี 2-1 ประเดิม 3 แต้มแรกในฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ซึ่งคนที่ยิงประตูชัยให้กับทีมก็คือ “เดอะ จากัวร์” ทาคุมะ อาซาโนะ
ทาคุมะ อาซาโนะ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 1994 ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในเมืองโคโมโนะ ประเทศญี่ปุ่น คุณพ่อประกอบอาชีพขับรถบรรทุก ส่วนคุณแม่นั้นเป็นแม่บ้าน เขามีพี่ชายถึง 5 คน และน้องสาวอีก 1 คน นั่นทำให้เหล่าพี่น้องชอบทำกิจกรรมที่สามารถเล่นด้วยกันทั้งหมดอย่างฟุตบอล
อาซาโนะ เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน เทคนิก ยอกไคจิ ชูโอะ โดยหลังจากจบมัธยมปลาย เขาถูกทาบทามจาก ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ให้มาเล่นอาชีพอย่างเต็มตัวตอนอายุ 18 ปี
อาซาโนะ เป็นนักเตะที่มีความเร็วเป็นจุดเด่น ทำให้เขาถูกตั้งฉายาว่า “จากัวร์” ซึ่งเขาเองก็ชื่นชอบที่แฟนบอลและผู้คนเรียกเขาแบบนั้น จึงเป็นที่มาของท่าดีใจอันเลื่องชื่อ
ปี 2015 ที่ฮิโรชิมาได้แชมป์สมัยที่ 3 ในรอบ 4 ฤดูกาล อาซาโนะ เป็นกองหน้าที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 9 ประตูจาก 34 นัด พร้อมคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปครอง ก่อนที่ปีต่อมา อาเซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล จะได้มาเห็นฟอร์ม และเกิดความชื่นชอบจนดึงตัวไปร่วมทีมในที่สุด
อย่างไรก็ตาม อาซาโนะ ไม่สามารถลงเล่นให้กับอาร์เซนอล ได้เลย เนื่องจากติดปัญหาใบอนุญาตทำงาน ทำให้ทีมต้องปล่อยตัวเขาไปเล่นกับ สตุตการ์ต และฮันโนเวอร์ ในบุนเดสลีก้า เยอรมนี 2 ฤดูกาล แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก
อาซาโนะ ไม่สามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ ฮันโนเวอร์ ไม่ได้รั้งตัวเขาไว้ต่อ ขณะที่เหลือสัญญาอีก 1 ปีกับอาร์เซนอล เขาตัดสินใจ ย้ายไปอยู่กับ ปาร์ติซาน เบลเกรด แบบถาวร เนื่องจากต้องการโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง
2 ฤดูกาลกับ ปาร์ติซาน อาซาโนะ กลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจขึ้น ลงสนามไป 56 นัด ยิงไป 22 ประตู ทำให้ฤดูกาล 2021 โบคุ่ม ตัดสินใจเซ็นสัญญาดึงตัวเขามาร่วมทีมแบบฟรีเอเย่น
การกลับมาเล่นในบุนเดสลีก้า หนนี้ อาซาโนะ มีความมั่นใจมากขึ้น แม้จะยิงประตูได้ไม่มาก แต่ก็ได้รับโอกาสลงเป็นแกนหลัก ทั้งยังมีจุดเด่นที่ความเร็วสร้างประโยชน์ให้กับทีมอยู่เสมอ กระทั่งถูกเรียกติดทีมชาติญี่ปุ่น ได้ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 เป็นครั้งแรก
แม้จะเป็นตัวสำรอง แต่ก็เป็นนักเตะตัวเลือกที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกมให้กับทัพ “ซามูไรบลู” เหมือนอย่างที่เขาทำได้ในเกมกับ เยอรมนี ยังคงเป็น จากัวร์สุดอันตราย ของญี่ปุ่นที่สุดสำคัญ