ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานงาน วันสตรีสากล ประจำปี 2566 ที่ลานสเก็ตน้ำแข็ง อิมพีเรียล เวิล์ด สำโรง เมื่อ 8 มี.ค.66 โดยมี รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และ ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ และรองประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายสตรีกับกีฬาในคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมกล่าวปาฐกถาถึงบทบาทสตรีในสังคมและวงการกีฬา เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2566
งานนี้ยังมีนักกีฬาสาวดีกรีทีมชาติไทยอีก 9 ราย จากหลายชนิดกีฬาร่วมพูดคุยถึงบทบาทสตรีกับกีฬา นำโดย “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ (วอลเลย์บอล), “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ (วีลแชร์ฟันดาบ), “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ (แบดมินตัน), “โบว์” สุภาวดี กุญชวน (บาสเกตบอล), “มีน” ปุณฑริกา ธัญญะวานิช (ปีนหน้าผา), “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ (อดีตนักเทนนิสมือ 1 หญิงไทย), “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ (อดีตนักเทควันโดทีมชาติไทย เหรียญทองแดง โอลิมปิก 2012), “แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ (นักกอล์ฟ) และ “ซิม” ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ (นักกอล์ฟ) ร่วมพูดคุย นอกจากนี้ วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์ และ นัฐพงษ์ เกษาพันธุ์ อดีตนักวอลเลย์บอลได้เข้าร่วมรับฟังในครั้งนี้ด้วย
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน กล่าวว่า ตนอยากชื่นชมและขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่จัดงานนำร่อง รวมพลคนกีฬาสตรีมาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และประสบการณ์ เพื่อมาร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์โอลิมปิก อยากขอบคุณน้องๆนักกีฬาทุกคนที่มาช่วยสร้างสีสัน สร้างแรงบันดาลใจ ให้เยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อผนึกกำลังพัฒนาวงการกีฬาของประเทศไทยต่อไป
ขณะที่ “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ เผยว่า ส่วนตัวภูมิใจที่ได้เป็นนักกีฬาผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีโอกาสได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และภูมิใจที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและผู้หญิงหลายๆคน ต้องยอมรับว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ ก็ต้องเสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเอง ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปก็ไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาตรงนั้นเลย แต่กลับมองว่าคุ้มค่ามากๆ ที่ได้รับใช้ชาติ ได้สร้างความสำเร็จ และแรงบันดาลใจให้กับคนอีกหลายๆคน
ด้าน “ดร.เก๋” ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา เผยถึงบทบาทของสตรีกับกีฬาภาคผู้บริหารระดับสูง เผยว่า วันสตรีสากล คือวันเฉลิมฉลองความสำเร็จทุกๆ ด้านของสุภาพสตรีทั่วโลก ไม่ว่าจะด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และกีฬา ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ก็เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทของนักกีฬาสตรีซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนวงการกีฬา และสร้างแรงผลักดันในอีกหลายมิติให้กับประเทศไทยด้วย
