ดอร์ตมุนด์ ได้ประกาศกุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาคุมบังเหียนในฤดูกาลหน้าออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น นูริ ซาฮิน อดีตนักเตะระดับพรสวรรค์ ที่เคยประสบความสำเร็จกับทีมมากมายสมัยเป็นนักเตะ
นูริ ซาฮิน เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1988 ที่เยอรมนี ตะวันตก สมัยยังเป็นนักฟุตบอลนั้น กล่าวได้ว่า ซาฮิน นั้นเป็นแข้งระดับอัจฉริยะ ที่ได้รับการจับตา และมีชื่อตั้งแต่อายุ ยังน้อย
ซาฮิน เข้าสู่ระบบเยาวชนของ อาร์เอสวี ไมเนอร์ซาเกน ตอนอายุ 6 ขวบ ก่อนจะถูกดอร์ตมุนด์ ดึงไปปลุกปั้นต่อตอนอายุ 13 ปี และเติบโตขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ ที่ช่วยดอร์ตมุนด์ คว้าความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ บุนเดสลีก้า ฤดูกาล 2010/11
ซาฮิน นั้นกลายเป็นที่สนใจกับสโมสรยักษ์ใหญ่มากมายในยุโรป ทำให้ในฤดูกาล 2011/12 เป็น เรอัล มาดริด ยอดทีมในลาลีก้า สเปน ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม อย่างไรก็ตาม แม้ ซาฮิน จะอยู่ในชุดแชมป์ ลาลีก้า ในปีนั้น แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม และมีส่วนร่วมกับทีมเท่าไหร่นัก ก่อนที่ ฤดูกาล 2012/13 จะถูกปล่อยไปให้ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่ง ซาฮิน ก็ได้ลงสนามไม่กี่นัด เท่านั้น เพราะยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน
ฤดูกาล 2012/13 และ ฤดูกาล 2013/14 เป็นต้นสังกัดเก่าที่ปลุกปั้นเขามาอย่าง ดอร์ตมุนด์ ที่อาสาคืนชีพให้เขาด้วยการยืมตัวมาใช้งาน ซึ่ง ซาฮิน ก็กลับมาลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยดอร์ตมุนด์ คว้าแชมป์ เดเอฟเอล ซูเปอร์ คัพ 2013 มาครองอีกด้วย
เมื่อกลับมาเล่นดี และโดดเด่นทำให้ ดอร์ตมุนด์ เซ็นสัญญากับเขาถาวร พาเขากลับมายังที่ที่ควรอยู่อีกครั้ง โดย ซาฮิน แม้จะยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ก็ยังมีแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ติดมืออีกรายการในฤดูกาล 2016
จากนั้นในฤดูกาล 2018/19 เขาได้ย้ายไปเล่นกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมร่วมลีกบุนเดสลีก้า และอันตัลยาสปอร์ ในตุรกี ฤดูกาล 2020/21 ก่อนจะแขวนสตั๊ด และขึ้นเป็นโค้ชของ อัลตัลยาสปอร์ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2021
นูริ ซาฮิน สั่งสมประสบการณ์โค้ชกับ อัลตัลยาสปอร์ อยู่ 2 ฤดูกาล กระทั่งล่าสุดเขาได้รับการแต่งตั้ง ให้กลับมาคุมทัพ “เสือเหลือง” ดอร์ตมุนด์ สโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน
สำหรับ ซาฮิน แล้ว แม้จะมีโอกาสได้ไปอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่มากมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีมที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดสมัยยังเป็นนักเตะก็คือ ดอร์ตมุนด์ และปัจจุบันเขาได้กลับมายังสโมสรแห่งนี้อีกครั้ง แน่นอนว่าบางทีเขาอาจจะเป็นผู้ที่ทำให้ ดอร์ตมุนด์ กลับมาประสบความสำเร็จเหมือนดั่งสมัยที่เขา ค้าแข้งอยู่กับทีมก็เป็นได้