กลายเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากสำหรับ บรูโน กิมาเรส มิดฟิลด์ จอมทัพชาวบราซิลของ นิวคาสเซิล
บรูโน กิมาเรส โรดริเกซ มูรา เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1997 เขาเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว อาศัยอยู่ในเมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล โดยคุณพ่อมีอาชีพขับรถแท็กซี หาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งคนในเมืองต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี
เหมือนกับเด็กชาวบราซิลทั่วไป บรูโน หลงไหลในกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก เขามักจะเล่นฟุตบอลด้วยเท้าเปล่าทั้งวัน หากว่างก็มักจะดูนั่งดูฟุตบอลจากทุกลีกทั่วโลก ผ่านทางทีวีของคุณปู่ ซึ่งเขาไม่เคยเบื่อมันเลย
อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นลูกคนเดียวทำให้เขาถูกเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ และ มาร์เซีย มูร่า คุณแม่ของเขานั้นไม่เคยต้องการให้เขาเล่นฟุตบอลเลย เพราะเธอไม่อยากให้ลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองต้องบาดเจ็บ ดังนั้นคุณแม่ เลยวางแผนส่ง กิมาเรส ไปเรียนว่ายน้ำ เพื่อหวังจะให้ลืมเรื่องฟุตบอล แต่มันก็ไม่เป็นผล
บรูโน ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ต่างออกไปจากปกติทุกวัน ความฝันของเขามีเพียงอย่างเดียวคือฟุตบอล เขาบอกกับคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่วแน่ว่า เขาเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ เขาจะพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจน
แต่แล้วมันก็ไม่ง่ายเลย บรูโน กิมาเรส เคยไปทดสอบฝีเท้ากับ ฟลูมิเนนเซ, ฟลาเมงโก, โบตาโฟโก แต่ก็ไม่เคยได้รับการคัดเลือก นั่นทำให้เขาท้อแท้และเกือบล้มเลิกความฝันไปอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นคุณพ่อของเขา ที่ปลุกเร้าลูกชายให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ประจวบเหมาะกับ ปี 2005 มีสโมสรที่ชื่อ ออดัก ริโอ มาก่อตั้งใหม่ คุณพ่อจึงตัดสินใจพาลูกชายขึ้นรถแท็กซี่หมายเลข 039 คู่ใจ ขับไปกว่า 433 กิโลเมตร เพื่อพาลูกชายไปคัดตัวที่นั่น
บรูโน ประสบความสำเร็จในการได้รับการคัดเลือก ซึ่งที่แห่งนี้เขาได้ใช้โอกาสอันมีค่าในการพัฒนาฝีเท้าของตัวเอง ทั้งยังมีความฉลาดในการเล่นเป็นทุนเดิม ทำให้เขาโดดเด่นกว่านักเตะคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน แต่เขาก็ต้องพบกับอุปสรรค์อยู่เหมือนกันในเรื่องระยะทางจากสนามที่ค่อนข้างไกล ทำให้คุณพ่อก็เกือบจะตัดสินใจเลิกขับแท็กซี่เพื่อที่จะไปรับไปส่ง สนับสนุนลูกชายอย่างเต็มตัว ทำให้ บรูโน ไม่เคยลืมบุญคุณของคุณพ่อ และความทรงจำบนรถแท็กซีสีเหลืองหมายเลข 039 ได้เลย
เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 2015 บรูโน กิมาเรส สามารถขึ้นไปอยู่ชุดใหญ่ของ ออดัก อย่างเต็มตัว ด้วยวัย 18 ปี ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มได้ดีจนฤดูกาล 2017 ถูก แอตเลติโก พาราเนนเซ ในลีกสูงสุดบราซิล ยืมตัวและซื้อขาดในปี 2018
เขากลายเป็นกำลังหลักให้กับทีม คว้าแชมป์ โคปา เดอ บราซิล 1 สมัย, แชมป์ คัมเปโอนาโต พาราเนเซ 1 สมัย, โคปา ซูดาเมริกานา 1 สมัย และแชมป์พิเศษ เจลีก คัพ – โคปา ซูดาเมริกานา แชมเปี้ยนชิพ 1 สมัย ลงสนามทั้งสิ้น 106 นัด ยิง 10 ประตู
เมื่อโชว์ฟอร์มได้โดดเด่น ก็กลายเป็นที่จับตามองของหลายทีมในยุโรป ก่อนจะเป็น ลียง ในลีกเอิงฝรั่งเศส ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2019/20 ลงเล่น 3 ฤดูกาล ยิงไป 3 ประตู จาก 71 นัด แต่ผลงานที่เด่นๆของเขาเลยคือการ พาทีมชาติ บราซิล ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าแชมป์ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
และแล้วก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องก้าวไปอีกขั้นกับทีมใหม่ และลีกการแข่งขันใหม่ โดยเป็น นิวคาสเซิล ที่ทุ่มเงินถึง 40 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
บรูโน กิมาเรส กลายเป็นที่จับตาทันที เขาเป็นนักเตะที่มีความลงตัว ทั้งเกมรุกเกมรับ ฤดูกาลแรกลงสนามไป 17 นัด ยิงไป 5 ประตู ขณะที่ดูกาลปัจจุบันก็ลงไปแล้ว 11 นัดยิงไป 2 ประตู
จะเห็นว่าทุกๆครั้ง ทุกๆโอกาสที่ได้ลงเล่นให้กับสโมสรไหนก็ตาม บรูโน กิมาเรส มักจะทำมันได้เป็นอย่างดีเสมอ และทุกครั้งที่เหมือนกันคือเขาไม่เคยลืมที่จะใส่เสื้อหมายเลข 39 เพื่อระลึกถึงคุณพ่อ และแท็กซี่คันเหลือง ที่คอยสนับสนุนเขามาโดยตลอด จนกลายเป็นนักเตะชื่อดังที่ประสบความสำเร็จ