ว่ากันว่าทีมชาติอิตาลี ยุคปัจจุบันกำลังขาดศูนย์หน้าที่จบสกอร์ได้เฉียบคม และเป็นความหวังในการทำประตู แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตคงจะมีความหวังไม่น้อย เมื่อมีนักเตะอย่าง ฟรานเชสโค คามาร์ดา ดาวยิงวัย 16 เพชรเม็ดงามแห่งวงการฟุตบอลอิตาลี ที่กำลังพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาในแคมป์เยาวชนของ เอซี มิลาน
ฟรานเชสโก คามาร์ดา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2008 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี มีรายงานว่าตอนเด็กเขามีความสนใจจะในกีฬาคิกบอกซิ่ง มาก่อน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินหน้ากับเส้นทางของลูกหนังอาชีพเต็มตัว ด้วยการเข้าไปฝึกฝนกับ อัฟโฟเรเซ ตอนอายุ 6 ขวบ จากนั้นจะย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในอีก 1 ปีต่อมา
ตอนแรกที่ย้ายมาฝึกฝีเท้ากับ เอซี มิลาน คามาร์ดา ถูกจับไปเล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ด้วยทักษะการเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ ระดับพรสวรรค์ทำให้เวลาต่อมาโค้ชได้ขยับเขาให้ขึ้นไปเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า
หลังจากนั้น คามาร์ดา ได้เติบโตขึ้นมาในระบบอคาเดมีของ มิลาน อย่างยอดเยี่ยม เขาถูกระบุว่าเป็นผู้ทำประตูที่สมบูรณ์แบบ โดยยิงไป 22 ประตู จาก 24 ให้กับทีมอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งนำไปสู่การคว้าแชมป์รุ่นยู-15 ของทีม นอกจากนี้ตลอดเวลาที่อยู่กับทีมเยาวชนของเอซี มิลาน เขายังยิงรวมไปถึง 485 ประตู จากการลงเล่นเพียง 89 นัด เฉลี่ยแล้ว 5.45 ต่อเกม เมื่ออายุเพียง 14 ปีเท่านั้น
เวลาต่อมา คามาร์ดา ได้เปิดตัวใน ในศึกยูฟ่า ยูธลีก โดยเขาลงสนาม และทำประตูได้ในเกมที่ทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล 4-0 ทำให้เขาทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด ที่ทำได้ 2 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ และเป็นนักเตะอิตาลีที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ด้วยอายุ 15 ปี 193 วัน ทำลายสถิติของ ฟาบริซิโอ คาลิการา ในวัย 16 ปี 189 วัน
ในฤดูกาล 2023/24 เอซี มิลาน ที่ประสบกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ ได้ดึงเขาขึ้นมาสมทบกับทีมชุดใหญ่ พร้อมกับให้ คามาร์ดา ลงสนามไปเล่น 2 เกม แม้จะยังไม่มีประตู แต่ก็ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นใน เซเรีย อา ด้วยวัย 15 ปี 260 วัน
ในส่วนของทีมชาติ แน่นอนว่าเขาได้รับการจับตามองมาเข้าทีมชาติอิตาลี ตั้งแต่ทีมยู-15 ยู-16 ยู-17 และ ยู-19 โดยอยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2024 นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ และติดทีมยอดเยี่ยมอีกด้วย
ด้วยวัยเพียง 16 ปี แต่สร้างผลงานไว้มากมายขนาดนี้ เชื่อว่าในอนาคต ฟรานเชสโก คามาร์ดา จะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงระดับโลก และกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมชาติอิตาลี ได้แน่