มีชื่ออยู่ในตลาดซื้อขายกับเขาด้วยสำหรับ ราสมุส คริสเตียนเซน แบ๊กขวาร่างใหญ่ทีมชาติเดนมาร์ก ที่ล่าสุด ย้ายไปเสริมทัพให้กับ โรม่า ในเซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญายืมตัวเรียบร้อย
ราสมุส นีสเซน คริสเตียนเซน เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 1997 ที่เมืองบรานเด ประเทศเดนมาร์ก พ่อของเขาคือ ซิกูร์ด คริสเตียนเซน และลุงของเขาคือ เลออน เยสเซน อดีตผู้เล่นของ สตรวม กราซ ในลีกออสเตรีย และด้วยความเป็นครอบครัวนักฟุตบอลแบบนี้ แน่นอนว่าทำให้ คริสเตียนเซน ชื่นชอบอยากจะเดินรอยตามคุณพ่อของเขาเช่นกัน
ราสมุส คริสเตียนเซน เริ่มเข้าสู่เส้นทางลูกหนังด้วยการฝึกฝนกับทีมเยาวชน บรานเด ไอเอฟ ในบ้านเกิด ตั้งแต่ 6 ขวบ เขาค่อยๆพัฒนาฝีเท้ากับสโมสรเป็นเวลา 6 ปี ก่อนจะย้ายไปสู่ก้าวที่ใหญ่กว่ากับ เฮอร์นิง เฟรเมด จากนั้น 2 ปี ต่อมาก็ถูกแมวมองของ มิดทิลแลนด์ ดึงตัวไปร่วมทีม
คริสเตียนเซน เริ่มพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง และการเข้าปะทะที่ดี แถมยังเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งเมื่อเขาอายุ 18 ปี ก็ได้รับสัญญาอาชีพกับ มิดทิลแลนด์ และถูกดันขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของทีม
เป็นเวลา 3 ฤดูกาล ที่ คริสเตียนเซน ลงเล่นให้กับ มิดทิลแลนด์ ในฐานะแบ๊กขวาที่น่าจับตามอง เขาลงสนามไป 82 นัด ทำไป 7 ประตู กระทั่งช่วงตลาดเดือนมกราคม ฤดูกาล 2017/18 เป็น อาแจ็กซ์ ยักษ์ใหญ่ในลีกเนเธอร์แลนด์ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม การย้ายมา อาแจ็กซ์ ของคริสเตียนเซน ดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก เขาไม่ได้รับโอกาสลงสนามที่มากพอ โดยหลังจากอยู่กับทีม 2 ปี ก็ตัดสินใจรับข้อเสนอของ เรด บลู ซัลซ์บวร์ก ในลีกออสเตรีย ในฤดูกาล 2019/20
คริสเตียนเซน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ซัลซ์บวร์ก นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่งแล้ว ยังมีเกมรุกที่มักจะขึ้นมาทำประตูได้ด้วย โดยลงสนามไป 109 นัด ยิงไป 14 ประตู ร่วมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ออสเตรีย 3 สมัย และ ออสเตรียน คัพ 3 สมัย รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมของลีก ออสเตรีย 2 ปีติดต่อกัน
ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เอง ทำให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ดึงตัวเขามาร่วมทีมในฤดูกาล 2022/23 แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มโดยรวมของทีมนั้นค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้สุดท้าย ลีดส์ ต้องตกชั้นลงไปในแชมเปี้ยนชิพ
แต่ถึงกระนั้นฟอร์มของ คริสเตียนเซน ก็ยังโดดเด่น และเป็นที่สนใจต่อหลายๆทีม ก่อนที่ล่าสุดจะกลายเป็น โรม่า ที่ประสบความสำเร็จในการดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวในที่สุด
การได้ย้ายไปเล่นในลีกสูงสุดของอิตาลี น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงฝีเท้าของ คริสเตียนเซน ได้เป็นอย่างดี ว่าเขาดีพอจะเล่นในฟุตบอลระดับสูง แม้จะอยู่ในทีมที่ต้องตกชั้นมาก่อนก็ตาม