ถูกแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรสำหรับการติดทัพแซมบ้า ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ ริชาร์ลิสันหัวหอก จอมยียวนของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่หลายคนยังตั้งคำถามในฝีเท้า ที่เพิ่งยิงไป 2 ประตู จาก 15 นัดที่ลงเล่นกับสโมสรเพียงเท่านั้น
ริชาร์ลิสัน เดอ อันดราเด เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1997 ในเมืองโนวา เวเนเซีย ประเทศบราซิล เขาเป็นลูกคนโต ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยมีคุณพ่อประกอบอาชีพเป็นช่างทำหิน และคุณแม่เป็นพนักงานทำความสะอาด พร้อมกับขายไอศกรีม ประทังชีวิตไปด้วย
ครอบครัวของริชาร์ลิสัน นั้้นยากจน ทุกๆวันเขาต้องไปช่วยแม่ขายไอศกรีม เพื่อนำเงินมาเป็นค่าขนม แม้มันจะเล็กน้อย แต่เขาก็พอใจกับมัน ในขณะที่เพื่อนๆหลายคนมุ่งสู่ทางที่ผิด
“เพื่อนของผมส่วนใหญ่ไปขายยาตามท้องถนน เพราะเห็นแก่การได้เงินจำนวนมากมาแบบง่ายๆ แต่ผมรู้ว่ามันผิด ผมจึงขายช็อกโกแลตและไอศกรีม รวมถึงรับจ้างล้างรถ เพราะผมรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง”
“เพื่อนของผมมักจะบอกผมเสมอว่า ‘มานี่สิ อย่าทำตัวเป็นเด็กผู้หญิงหน่อยเลย มาสูบบุหรี่กับเรา มาขายยากับเรา แกสามารถทำเงินได้มากขึ้นอีกนะ’ ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลย้อนถึงวัยเด็ก
แต่ริชาร์ลิสันไม่เคยเลือกชีวิตที่จะต้องเป็นอาชญากร เขาพอใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต แม้ว่าเขาจะไม่ใช่พนักงานขายไอศกรีมที่เก่งที่สุดในโลกก็ตาม
“ตอนที่ผมอายุ 7 ขวบ พ่อของผมซื้อลูกบอลให้ผม10 ลูก ไม่ใช่เพราะเขามีกำลังมากพอ แต่เพราะเขาต้องการให้ผมเป็นนักฟุตบอลที่ดี”
“เวลาส่วนใหญ่ของผม จะเล่นฟุตบอลกับเพื่อนบนถนน โดยนำรองเท้ามาตั้งเป็นประตู ที่แห่งนั้นมันเป็นเหมือนสลัม เป็นพื้นที่ยากจน และผมก็ชื่นชอบพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่เด็ก ผมเคยดูพรีเมียร์ลีกในทีวีของลุง ผมรักมัน ความเร็วของเกมและวิธีที่มันไม่เคยหยุดนิ่ง ผมพูดในใจเสมอว่า… สักวันหนึ่งผมจะไปเล่นที่นั่น”
วันเวลาผ่านไปโดยที่ ริชาร์ลิสัน วัย 14 ปี ยังใช้ชีวิตปกติสุขช่วยคุณแม่ขายไอศกรีม และเล่นบอลบนท้องถนนกับเพื่อน กระทั่งวันหนึ่งโชคร้ายก็มาเยือน เมื่อมีนักเลงและเจ้าพ่อค้ายา เข้ามาจับตัวเขาเอาไว้ และกดปากกระบอกปืนไปที่หน้าผากของเขา ด้วยเหตุเพราะว่านักเลงกลุ่มนั้นคิดว่า ริชาร์ลิสัน ปลอมตัวมาเป็นเด็กเล่นบอล และพยายามที่จะขโมยยาของเขา
“ในตอนนั้น ผมกลัวมาก เพราะถ้าเขาเหนี่ยวไก มันก็จะจบลงแล้ว แต่ผมก็แค่เล่นฟุตบอลกับเพื่อน หลังจากที่เขาลดปืนลง ผมก็หันหลังกลับและเริ่มวิ่ง จากนั้นผมก็ไม่เคยกลับไปที่ถนนนั้นอีกเลย ผมกลัวมาก”
จากวันนั้นผ่านไป 2 ปี ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ เรนาโต เวลาสโก นักธุรกิจผู้ซึ่งมองเห็นศักยภาพของเขาขณะเล่นในทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่นเรอัล โนโรเอสเต
“เรนาโต้เป็นคนแรกที่ให้โอกาสผม เขาให้รองเท้าฟุตบอลคู่หนึ่งแก่ผม และบอกกับผมว่าจะช่วยผม เพราะผมมีคุณภาพ”
คุณภาพ ที่ เรนาโต้ พูดถึงนั้นคือการพาริชาร์ลิสันไปเล่นให้ อเมริกา มิไนโร ในลีกระดับสองของบราซิล ในเดือนธันวาคม 2014 และย้ายไปฟลูมิเนนเซ่ (ระดับสูงสุดของบราซิล) ในอีกหนึ่งปีต่อมา
ริชาร์ลิสันลงสนามให้กับ ฟลูมิเนนเซ ไป 67 นัด ยิงไป 19 ประตู ทำให้ได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป โดยขณะนั้นเป็น อาแจ็กซ์ ที่ใกล้จะคว้าตัวเขาได้แล้ว แต่สุดท้าย มาร์โก ซิลวา กุนซือของ วัตฟอร์ด ในขณะนั้นก็โน้มน้าวเขาได้สำเร็จ ทำให้เขาย้ายมาอยู่กับ วัตฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017/18
หลังจากนั้นฤดูกาลต่อมา 2018/19 มาร์โก ซิลวา ที่ย้ายมาคุมทัพ เอฟเวอร์ตัน ก็ดึงตัวเขาตามไปด้วย โดยริชาร์ลิสันลงเล่นเป็นแกนหลักให้กับ เอฟเวอร์ตัน ตลอด 4 ฤดูกาล ลงสนามไป 152 นัด ยิงไป 53 ประตู ก่อนที่ฤดูกาล ล่าสุดจะเป็น สเปอร์ ที่ดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์
ในส่วนของทีมชาติบราซิลริชาร์ลิสันอยู่ในชุดคว้าแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงอยู่ในทีมชาติบราซิล ชุดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2019 อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิตเขา เพราะสิ่งที่เขาคาดหวังคือการได้ไปฟุตบอลโลก
“ผมคาดหวังว่าสักวันหนึ่งจะถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในชีวิตของผม การได้ไปฟุตบอลโลกคือความฝันของผม”
บัดนี้ ริชาร์ลิสัน ได้ทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงจะเค้นฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมออกมากลบเสียงวิจารณ์ได้อย่างไร ในฟุตบอลโลก 2022 คงได้รู้กัน