ประวัตินักกีฬา

อิบราฮิม ซานกาเร มิดฟิลด์สุดแกร่งจากไอวอรี โคสต์ ที่เคยถูกหมายปองจากทีมยักษ์ใหญ่

อิบราฮิม ซานกาเร

 หลังจากเคยเป็นที่สนใจของสโมสรยักษ์ใหญ่ ก่อนจะย้ายมายัง นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แบบเซอร์ไพรส์ สำหรับ อิบราฮิม ซานกาเร มิดฟิลด์ ดีกรีทีมชาติไอวอรี โคสต์ แต่ดูเหมือนจะยังประสบปัญหาในการปรับตัว และได้รับโอกาสลงสนามไม่มากเท่าที่ควร

 อิบราฮิม ซานกาเร เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1997 ที่คูมาสซี ประเทศไอวอรี โคสต์ เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับการเป็นเด็กเยาวชนของ อาแอส เดงกูเลย์ สโมสรดังในลีกบ้านเกิดของเขาเมื่อปี 2012  ซึ่ง ซานกาเร ก็อยู่รับใช้สโมสรแห่งนี้เป็นเวลากว่า 5 ปี ก่อนที่ในปี 2016 เขาจะได้โอกาสออกไปท่องโลกกว้างที่ทวีปยุโรป

 โดยตูลูส สโมสรชื่อดังของลีกฝรั่งเศส คือทีมที่หยิบยื่นโอกาสให้ อิบราฮิม ซานกาเร ได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในชีวิต ในวัย 19 ปี ซึ่ง ซานกาเร ก็สามารถตอบแทนความไว้วางใจครั้งนี้ ด้วยการลงสนามเป็นตัวหลักให้กับ ตูลูส ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีม ด้วยสถิติการลงสนามมากถึง 86 นัด พร้อมทำไป 2 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ

 อแลง คาสโนวา กุนซือของตูลูสในเวลานั้น ได้ออกมาชื่นชม ซานกาเร ว่า “การสัมผัสบอลแรกของเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา เขาเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ เขาสามารถเล่นในพื้นที่แคบได้เป็นอย่างดี และสามารถเอาตัวรอดจากการโดนเพรสซิ่งได้แบบน่าเหลือเชื่อมาก ๆ นอกจากนี้เขายังมีความสามารถในการแย่งบอลที่ยอดเยี่ยม และวิ่งแบบไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย”

อิบราฮิม ซานกาเร

“เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยทำงานด้วยที่ตูลส ผมเคยทำงานกับกองกลางระดับสูงอย่างเอเตียน กาปู, อาเดรียน ราบิโอต์ และมุสซา ซิสโซโก ซึ่งผมคิดว่าเขาอยู่ในระดับนั้น”

นอกจากนี้ ฟอร์มของ ซานกาเร ยังโดดเด่นถึงขนาดที่ อัลฟ่า บัลเด้ นักข่าวสายบอลแอฟริกัน ได้ยกย่องว่า ซานกาเร ทำให้เขานึกถึงสุดยอดกองกลางแห่งกาฬทวีป อย่าง ยายา ตูเร่ และไมเคิล เอสเซียง อีกด้วย 

 “ร่างกายของเขาเหมือนกับยาย่า ตูเร่ แต่เขาก็ทำให้ผมนึกถึงไมเคิล เอสเซียงด้วยเช่นกัน ผมเห็นเอสเซียงตั้งแต่ตอนเริ่มต้นอาชีพ และทั้งสองก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งพอ ๆ กัน ในขณะที่อายุเท่า ๆ กัน ซานกาเร มีความกระตือรือร้น และผมคิดว่ากองเชียร์ตูลูสจะเพลิดเพลินไปกับจิตวิญญาณนักสู้ของเขา”

 ถึงแม้ว่าในฤดูกาล 2019/20 ซานกาเร จะไม่สามารถช่วยต้นสังกัดให้รอดพ้นจากการตกชั้นสู่ลีก เดอซ์ได้สำเร็จ แต่ทว่าผลงานส่วนตัวของเขาก็ดีพอที่จะทำให้ “พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น” ยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ ยอมทุ่มเงิน 7 ล้านยูโร กระชากตัวเขาไปร่วมทีม

 เพียงฤดูกาลแรกกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซานกาเร ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมได้ทันที ด้วยการลงสนามไปมากถึง 41 นัดรวมทุกรายการ และกลายเป็นหัวใจในแดนกลางของทีม

ถัดมาในฤดูกาล 2021/22 ถือเป็นฤดูกาลที่ ซานกาเร เฉิดฉายมากที่สุด เพราะเขาลงเล่นให้กับทีมไปมากถึง 49 นัด พร้อมกับทำประตูและแอสซิสต์ได้อย่างละ 4 ลูก ที่สำคัญเขามีส่วนในการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ เคเอ็นวีบี คัพ ได้ในฤดูกาลดังกล่าว และฤดูกาลต่อมา 2022/23 อีกด้วย

 ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เอง ทำให้เขาได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ หลายต่อหลายทีม โดยเฉพาะกับ ลิเวอร์พูล และบาเยิร์น มิวนิค แต่สุดท้ายดีล กับ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ นี้กลับล่มลง และกลายเป็น นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ยื่นข้อเสนออย่างจริงจังที่สุดในการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม

 แม้ปัจจุบัน ซานกาเร ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเอง และปรับตัวเพื่อให้ได้โอกาสลงสนามกับ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่จากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา และการได้รับการจับตามองจากทีมยักษ์ใหญ่ รวมถึงการลงเล่นเป็นแกนหลักให้กับทีมชาติไอวอรี โคสต์ มาตั้งแต่ปี 2015 ยืนยันได้เลยว่า นักเตะรายนี้คือของจริง

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top