หลังจาก จอห์น ฮิกกิ้นส์ นักสนุกเกอร์มืออันดับ 13 ของโลก เอาชนะ โจ โอคอนเนอร์ 10-6 เฟรม ในรอบชิงชนะเลิศ ศึก เวิลด์ โอเพ่น 2025 พร้อมเงินรางวัล 175,000 ปอนด์ หรือราว 7.5 ล้านบาทไปครอง
หลังการแข่งขัน ฮิกกินส์ ที่คว้าแชมป์รายการที่ 4 ของตัวเองในจีน เผยว่า ผมดีใจมาก รู้สึกหมดแรงเลยเพราะมันเต็มไปด้วยความกดดันตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ผมภูมิใจที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ได้อีกครั้งในวัยนี้”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะได้แชมป์อีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาต้องเจอกับความพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดมาหลายครั้งในช่วง 3-4 ปีหลัง ดังนั้นการกลับมาคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าภูมิใจมาก”
ฮิกกิ้นส์ ยังกล่าวชื่นชมโอคอนเนอร์ว่า “โจไม่ได้เล่นดีที่สุดในวันนี้ หลังจากที่โชว์ฟอร์มสุดยอดมาตลอดทั้งสัปดาห์ เขาเล่นได้ไม่เหมือนเกมที่ชนะฌอน จัดด์ และอาลี (คาร์เตอร์) เฟรมแรกสำคัญมากเพราะเขามีโอกาสปิดเกมที่ลูกดำสุดท้าย ถ้าเขานำ 1-0 อาจจะได้ความมั่นใจมากกว่านี้ ผมพยายามกดดันเขาตลอด เกมเซฟตี้ของผมก็ดีมากทั้งวัน เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมแต่วันนี้ไม่ใช่วันของเขา ผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาได้แน่นอน”
สำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ของ ฮิกกินส์ ถือเป็นการคว้าแชมป์แรงกิ้งแรกของเขานับตั้งแต่ เพลเยอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 หรือก็คือเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่มีเงินรางวัลสูงถึง 175,000 ปอนด์ ส่งผลให้เขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของโลกใน Johnstone’s Paint World Rankings และอันดับ 3 ใน Johnstone’s Paint One-Year List นอกจากนี้ เขายังเพิ่มสถิติแชมป์แรงกิ้งของตัวเองเป็น 32 รายการ เป็นรองเพียง รอนนี โอซุลลิแวน (40 รายการ) และ สตีเฟน เฮนดรี้ (36 รายการ)
นอกจากนี้ ฮิกกินส์ ซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 50 ปีในเดือนพฤษภาคม ยังกลายเป็นนักสนุกเกอร์ที่อายุมากที่สุดเป็นอันดับสองที่คว้าแชมป์รายการแรงกิ้ง รองจาก เรย์ รีอาร์ดอน ที่คว้าแชมป์ Professional Players Tournament ปี 1982 หลังจากอายุครบ 50 ปีเพียงไม่นาน นอกจากนี้ เขายังทำลายสถิติช่องว่างระหว่างแชมป์แรงกิ้งแรก และแชมป์ล่าสุดที่ยาวนานที่สุด โดยกินเวลาถึง 30 ปี 129 วัน หลังจากที่เขาคว้าแชมป์แรกในรายการ กรังด์ ปรีซ์ ปี 1994
ส่วน โอคอนเนอร์ ยังคงต้องรอแชมป์แรกต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้เคยเข้าชิง สกอตติช โอเพ่น 2022 แต่ก็แพ้ให้กับ แกรี่ วิลสัน 2-9 gai, อย่างไรก็ตาม เงินรางวัล 75,000 ปอนด์ หรือราว 3.2 ล้านบาท จากรายการนี้ ถือเป็นรายได้สูงสุดในอาชีพของเขา และช่วยให้เขาขยับขึ้น 8 อันดับมาอยู่ที่ 31 ของโลก