เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ หุ้นส่วนคนใหม่ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยวิสัยทัศน์ว่าต้องกการเฟ้นหาแข้งดาวรุ่ง มากกว่าจะทุ่มเงินเพื่อซื้อความสำเร็จ
เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเคมีภัณฑ์ INEOS เพิ่งเข้าถือครองหุ้นจำนวน 27.7% ของทีมปีศาจแดง โดยคาดว่าตกลงจ่ายเงินราว 1,300 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 57,200 ล้านบาท แลกกับการครอบครองหุ้น
ล่าสุดนักธุรกิจวัย 71 ปี ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์การทำทีม โดยเผยว่าตนอยากตามหานักเตะดาวรุ่งที่จะมาเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ มากกว่าจะใช้เงินซื้อความสำเร็จ
โดยเซอร์จิม ได้กล่าวเปรียบเทียบถึง คีลิยัน เอ็มบัปเป กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งจะหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง แห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส หลังจบฤดูกาลนี้ และเตรียมรับค่าเหนื่อยมหาศาลจากต้นสังกัดใหม่ ที่คาดว่าจะเป็น เรอัล มาดริด แห่งลา ลีกา สเปน
“ผมอยากจะมองหาเอ็มบัปเปคนใหม่ มากกว่าที่จะพึ่งโชคชะตาเพื่อพยายามซื้อความสำเร็จแบบเร่งด่วน มันดูไม่ฉลาดเลย การซื้อเอ็มบัปเปเป็นวิธีที่ใครก็คิดเอาเองได้ง่ายๆ สิ่งที่ท้าทายกว่าคือการหาเอ็มบัปเปคนใหม่ขึ้นมา จู๊ด เบลลิงแฮม คนต่อไป หรือ รอย คีน คนต่อไป”
สำหรับ คีลิยัน เอ็มบัปเป ประกาศการตัดสินใจว่าเขาจะไม่ต่อสัญญากับ เปแอสเช หลังจากจบฤดูกาลนี้ และจะไม่ใช้ออฟชั่นต่อสัญญาไปอีกหนึ่งปีด้วย ทำให้เขาจะสามารถย้ายทีมได้แบบไร้ค่าตัว
อย่างไรก็ตามแม้จะชัดเจนว่าแข้งวัย 25 ปี จะไม่อยู่ค้าแข้งกับทีมดังแห่งลีกเอิงอีกต่อไป แต่ในเรื่องของทีมใหม่ก็ยังไม่มีความชัดเจนจากแข้งรายนี้เช่นกัน แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่าทีมต่อไปของเขาน่าจะเป็น เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ในสเปน ที่มีข่าวเชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนานก็ตาม
นอกจากนี้ เซอร์จิม ยังเปิดเผยว่า ต้องการสร้างสนามที่มีความจุ 100,000 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมหวังให้กลายเป็นสนามใหม่ในการฟาดแข้งเกมสำคัญ ทั้ง เอฟเอ คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงด้วย
“ทำไมทีมชาติอังกฤษถึงเล่นทางตอนใต้ (เวมบลีย์) ตลอด ทำไม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศมักเล่นทางใต้เสมอ ทำไมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก จะไม่สามารถมาเล่นทางตอนเหนือได้บ้างล่ะ”
“ถ้าเราสร้างพื้นที่ใหม่ได้สมบูรณ์ มันจะมีความทันสมัยและมีความจุถึง 90,000-100,000 ที่นั่ง และจะกลายเป็นสังเวียนสำหรับการแข่งขันสำคัญๆ”