เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางชาวเบลเยี่ยม กล่าวคำอำลาแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการเล่นนัดเกมเหย้านัดสุดท้าย หลังเตรียมย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้
แข้งวัย 33 ปี ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาเตรียมแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจะหมดสัญญากับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากอยู่กับทีมมานานกว่า 10 ปี
ล่าสุดทีมเรือใบสีฟ้า มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นเกมที่พวกเขาจะได้เล่นเป็นนัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ โดยผลการแข่งขันทีมเจ้าบ้านเอาชนะไป 3-1
หลังเกมการแข่งขัน เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางชาวเบลเลี่ยม ได้กล่าวอำลาต่อหน้าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเขากล่าวว่า “แมนเชสเตอร์ คือบ้าน แมนเชสเตอร์ คือเมืองที่ลูกๆ ของผมเกิด ผมมาที่นี่พร้อมกับภรรยา มิเชล เพื่อที่จะอยู่ยาวๆ แต่ไม่คิดว่าจะอยู่นานได้ถึง 10 ปี เราได้แชมป์ครบทุกรายการ เราทำให้เมืองแห่งนี้ รวมถึงสโมสรยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม”
“ถือเป็นเกียรติอย่างสูงเลยที่ได้เล่นกับนักเตะเหล่านี้ ที่นี่ผมได้สร้างเพื่อนเยอะมาก ผมมั่นใจว่าเราจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน ผมรู้ว่าปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเรา แต่ผมคิดว่าทีมชุดนี้สมควรได้รับการสนับสนุนจากพวกคุณทุกคน ผมว่าเราจะกลับมาได้ในฤดูกาลหน้า และลุ้นแชมป์ทุกรายการ”
“หลังจาก 10 ปีที่อยู่ที่นี่ มันถึงเวลาแล้วที่จะกล่าวอำลา ผมจะกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน เราทุกคนในครอบครัวรักพวกคุณ แล้วเจอกันครับ”
สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ ย้ายมาจาก โวล์ฟสบวร์ก ทีมในศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ตั้งแต่ปี 2015 และกลายเป็นนักเตะกำลังหลักของทีมโดยลงสนามไปทั้งสิ้น 421 นัด ทำ 108 ประตู กับ 177 แอสซิสต์
โดย เดอ บรอยน์ คว้าแชมป์ร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 16 รายการ ประกอบด้วย แชมป์ พรีเมียร์ลีก 6 สมัย , เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 5 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย
ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวอำลาลูกทีมพร้อมน้ำตา โดยกล่าวว่า “สิ่งสำคัญก็คือความรู้สึกที่เรามีให้กับตัวเขา และครอบครัวของเขา รวมทั้งแฟนบอล ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ทุกคนจาก แมนฯ ซิตี ผูกพันกับเขา และครอบครัวมากแค่ไหน รวมทั้งรักพวกเขามากเพียงใด”
“แชมป์ และทุกอย่างที่เขาทำที่นี่เป็นเรื่องดี แต่เมื่อคุณจากไปโดยได้รับความเคารพ และความความขอบคุณอย่างนี้ หลังจากอยู่มานาน 10 ปี มันก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านั้นอีกแล้ว”
“สโมสรจะตัดสินใจ ผมเองก็มีส่วนร่วมในการตัดสินใจนั้นด้วย แต่มันเป็นวันเศร้า และเราจะคิดถึง เควิน เดอ บรอยน์ อย่างไม่ต้องสงสัย”