เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ออกโรงวิจารณ์โปรแกรมการแข่งของฤดูกาลนี้ ว่าเยอะจนเกินไป เป็นการทำลายสุขภาพของนักเตะ
ในฤดูกาล 2024-2025 ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มีการเปลี่ยนแปลงระบบการแข่งขัน โดยทุกสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเตะมากถึง 8 เกม ในรอบลีก เฟส มากกว่าของเดิมที่เล่นแค่ 6 เกมเท่านั้น และหากรวมกับโปรแกรมลีก และฟุตบอลถ้วยในประเทศแล้ว หมายความว่านักเตะอาจจะต้องลงสนามในทุกๆ 3 วัน
จากการเพิ่มโปรแกรมดังกล่าว ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คืออีกหนึ่งทีมที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเมื่อดูโปรแกรมแล้ว พวกเขาอาจจะต้องลงเล่นในทุกๆ 2 วันด้วยซ้ำ ในเดือนกันยายนนี้
เรื่องดังกล่าว เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางชาวเบลเยียม ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกโรงวิจารณ์ โดยเชื่อว่าจะเป็นการส่งผลเสียมากกว่าผลดี พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องเห็นแก่เงินมากกว่าสุขภาพของนักเตะ
“ปัญหาที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังเกมชิงแชมป์สโมสรโลก (ในปี 2025) เรารู้ว่าจะมีเวลาเพียง 3 สัปดาห์ระหว่างรอบชิงชนะเลิศเกมชิงแชมป์สโมสรโลก และนัดแรกของพรีเมียร์ลีก เรามีเวลาพัก 3 สัปดาห์ เพื่อเตรียมลงเล่นอีก 80 แมตช์”
“บางทีปีนี้มีหลายๆ อย่างอาจจะพอรับไหว แต่ปีหน้าอาจมีปัญหาใหญ่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และสมาคมนักเตะจะต้องพยายามหาวิธีแก้ปัญหา แต่แน่นอนว่าปัญหาก็คือ ยูฟ่า กับ ฟีฟ่า ดันเพิ่มการแข่งขันเข้าไปอีก และเราสามารถแจ้งความกังวลในเรื่องนี้ได้ แต่ไม่มีวิธีแก้ปัญหา มันดูเหมือนเงินจะเสียงดังกว่าเสียงของนักเตะ”
นอกจากนี้ แบร์นาร์โด ซิลวา อีกหนึ่งนักเตะของทีมเรือใบสีฟ้า ก็ออกมาพูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน โดยความคิดเห็นคล้ายกับ เดอ บรอยน์ ว่าโปรแกรมการแข่งขันที่เยอะขนาดนี้เป็นเรื่องที่บ้าบอมาก
” โปรแกรมการแข่งขันมันบ้าบอสิ้นดี เราได้รับข่าวว่าเราจะได้พักแค่วันเดียวก่อนลงเล่นเกมลีก คัพ บางทีเราจะต้องลงสนามทุกๆ สามวันไปอีกหลายเดือน มันไร้สาระสิ้นดี การแข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีก ถ้าคุณไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม คุณก็ยังต้องลงเล่นอีก 2 เกม มันเป็นความจริงที่จะต้องมีนักเตะในทีมที่ใหญ่กว่าเดิม”
“ผมไม่ได้จะบอกว่าการมีนักเตะให้เลือกใช้งานเยอะมันจะเป็นเรื่องง่าย มันไม่ง่ายเลย ผมได้ใช้เวลาแค่นิดเดียวกับครอบครัว และเพื่อนๆ ของผม จากจำนวนเกมที่เราต้องลงเล่นมันช่างไร้สาระสิ้นดี”