เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบุว่าเข้าใจความเห็นของ เยอร์เกน คล็อปป์ หลังผู้จัดการทีมชาวเยอรมันแสดงความเห็นเรื่องศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก แต่ขณะเดียวกันก็ปกป้องรายการนี้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เยอร์เกน คล็อปป์ ออกมาวิจารณ์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ถึงขั้นระบุว่าเป็นไอเดียที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ประเด็นดังกล่าวทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งลงแข่งขันในรายการนี้ด้วย ออกมาแสดงความเห็นกับคอมเมนต์ของ เยอร์เกน คล็อปป์ โดยระบุว่าเขาเข้าใจอดีตกุนซือลิเวอร์พูล แต่ก็ยังปกป้องการแข่งขันรายการนี้ด้วยเช่นกัน
“ผมดวลกับ เยอร์เก้น มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ผมรู้ดีว่าอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้น ซึ่งความเห็นของเขามันก็ไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจมากมาย ผมเข้าใจเขา ผมเคารพเขา ตอนนี้เขาไม่ได้ทำอาชีพเดิมแล้ว และผมก็เข้าใจประเด็นของเขา เพราะผมเองก็คงจะเข้าข้างความเห็นของเขาเช่นกัน”
“ในฐานะผู้จัดการทีม เราไม่มีอำนาจในการจัดรูปแบบการแข่งขัน ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง และคนอีกกลุ่มคือคนที่มีหน้าที่ในการจัดทัวร์นาเมนต์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม พอเราได้มาแข่งที่นี่จริงๆ เราก็รู้สึกภูมิใจมากๆ”
“หลายทีมบ่นเกี่ยวกับรายการเหล่านี้เพราะพวกเขาไม่ได้มาเล่น ไม่อย่างงั้นพวกเขาก็อาจจะชอบที่ได้มาเล่นที่นี่ก็ได้ พวกเขาจะมีสื่อกับแฟนบอลตามมาถึงที่นี่ และพวกเขาจะได้เงินก้อนหนึ่งด้วย พวกเขาจะมีความสุขกับการได้มาเล่นรายการนี้”
“แน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานการณ์ในฝันสำหรับคนเป็นผู้จัดการทีม ผมอยากมีเวลาเตรียมทีม 2 เดือนสำหรับการสู้ศึกฤดูกาลหน้าไหม? ก็ต้องอยากอยู่แล้ว ผมอยากมีสภาพสดใหม่เพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้ารึเปล่า ? ก็ต้องอยากเช่นกัน”
“แต่อะไรที่เกิดขึ้นไปแล้วเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และเราก็สมควรได้มาเล่นรายการนี้เมื่อพิจารณาถึงผลงานที่เราเคยทำได้ ดังนั้นเมื่อเรามาเล่นรายการนี้แล้วเราก็ควรจะมาเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กันดีกว่า”
นอกจากนี้กุนซือชาวสเปนยังเอ่ยปากว่า การแข่งขันดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบที่ทำให้ทีมล้าจนกระทบกับการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก
“ผมพยายามผ่อนคลาย และสนุกกับที่นี่ เราเข้าแข่งขัน และเราพยายามคว้าแชมป์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฟื้นฟูร่างกาย นี่คือเป้าหมายหลักของผมในทัวร์นาเมนต์นี้”
“หลังจากนั้นเราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางทีในเดือนพฤศจิกายน, ธันวาคม หรือ มกราคม อาจเป็นหายนะ เราจะอ่อนล้า และฟุตบอลสโมสรโลกจะทำลายเรา ผมไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดสิ่งนี้ขึ้น เราจะได้เห็นกันเมื่อเรากลับไป”