ในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังมานี้ชื่อของ เฟรงกี้ เดอ ยอง มักได้รับความสนใจจากหลายทีมยักษ์ใหญ่อยู่ทุกครั้งที่มีข่าวว่าทีมใดก็ตาม กำลังต้องการเสริมมิดฟิลด์ระดับโลกสักคน เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งแข้งพรสวรรค์ระดับโลก และอยู่กับ บาร์เซโลนา ที่กำลังมีข่าวเกี่ยวกับการเงินอยู่เสมอ ทำให้เชื่อว่าการคว้าตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง คงไม่ใช่เรื่องยาก หากมีเงินมากพอ
เฟรงกี้ เดอ ยอง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 ที่เมืองอาร์เคล ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่รักฟุตบอลเป็นอย่างมาก โดยพ่อของเขา จอห์น เดอ ยอง เคยเป็นนักฟุตบอลสมัครเล่น ขณะที่แม่ของเขา มาริอันน์ ก็เคยเล่นฟุตบอลในระดับท้องถิ่นเช่นกัน ด้วยบรรยากาศในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้ ทำให้เฟรงกี้ได้รับแรงบันดาลใจตั้งแต่เด็กและเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย
เส้นทางของเดอ ยอง ในวงการลูกหนังเริ่มต้นจากการเข้าร่วมอคาเดมีของ วิลเลม ทเว สโมสรท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงด้านการพัฒนานักเตะเยาวชน เขาแสดงพรสวรรค์ที่โดดเด่นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความนิ่งและความสามารถในการอ่านเกมที่เกินวัย ทำให้เขาถูกจับตามองจากหลายสโมสรชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 16 ปี ในช่วงที่อยู่กับวิลเลม ทเว เขาได้รับการปลูกฝังพื้นฐานการเล่นฟุตบอลที่แข็งแกร่ง รวมถึงได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมสำรองของสโมสร
แม้ว่าเดอ ยอง จะได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของวิลเลม ทเว เพียงไม่กี่นัด แต่ความสามารถของเขาก็ไปเข้าตาแมวมองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หนึ่งในสโมสรที่มีระบบอคาเดมีดีที่สุดในยุโรป อาแจ็กซ์ตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี ค.ศ. 2015 และนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพของเขา เพราะเขาได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายใต้ระบบการเล่นของอาแจ็กซ์ ซึ่งเน้นการครองบอลและการเคลื่อนที่อย่างมีประสิทธิภาพ
เดอ ยอง ใช้เวลาในช่วงแรกที่อาแจ็กซ์กับทีมสำรอง ก่อนจะเริ่มแจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาล 2017/18 ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นในแดนกลาง เขากลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมชุดที่สร้างเซอร์ไพรส์ในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2018/19 ด้วยการทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศโดยเอาชนะทั้งเรอัล มาดริด และยูเวนตุส ซึ่งผลงานของเขาในฤดูกาลนั้นไม่เพียงแค่ทำให้เขาเป็นที่จับตามองจากบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป แต่ยังทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีกดัตช์ พร้อมช่วยอาแจ็กซ์คว้าดับเบิลแชมป์ในประเทศ
ในปี ค.ศ. 2019 บาร์เซโลนา เซ็นสัญญาคว้าตัวเดอ ยอง มาร่วมทีมด้วยค่าตัวราว 75 ล้านยูโร ท่ามกลางความคาดหวังว่าเขาจะเข้ามาเป็นศูนย์กลางในแดนกลางของทีม หลังจากย้ายมาสู่คัมป์ นู เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวหลักทันที และแม้ในช่วงแรกจะต้องปรับตัวให้เข้ากับลาลีกาและสไตล์การเล่นของบาร์เซโลนา แต่เขายังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการครองบอล วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล และความเยือกเย็นที่เป็นเอกลักษณ์
เดอ ยอง มีบทบาทสำคัญในทีมตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2021 ที่เขามีส่วนช่วยให้บาร์เซโลนาคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสร แต่บาร์เซโลนากลับต้องเผชิญปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ทำให้ในช่วงตลาดซื้อขาย 2-3 ฤดูกาลหลังสุด มีข่าวอย่างต่อเนื่องว่าสโมสรต้องการขายเขาออกไปเพื่อพยุงสถานะทางการเงิน โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ปี ค.ศ. 2022 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเอริก เทน ฮาก พยายามดึงตัวเขาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายดีลก็ไม่เกิดขึ้นเพราะตัวนักเตะยังคงต้องการเล่นให้บาร์เซโลนา
แม้จะอยู่กับทีมต่อมาอีกหลายฤดูกาล แต่ข่าวการย้ายทีมของเดอ ยอง ก็ยังไม่เคยเงียบหายไป โดยในฤดูกาล 2023/24 มีรายงานว่าเขายังคงได้รับความสนใจจากหลายทีมในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และเชลซี อย่างไรก็ตาม เขายังคงแสดงความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลนา แม้ว่าสถานการณ์ของสโมสรจะยังไม่มั่นคงทั้งในและนอกสนามก็ตาม
ปัจจุบัน เฟรงกี้ เดอ ยอง ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของบาร์เซโลนา แต่อนาคตของเขายังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการฟุตบอลว่าหากสโมสรยังเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เขาอาจต้องย้ายออกจากทีมในที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขาที่ยังคงทำให้เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในยุโรป
