ไครี เออร์วิง การ์ดชื่อดังของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ เปิดเผยว่า กำลังศึกษาแนวทางการย้ายทีมชาติเพื่อไปเล่นบาสเกตบอลในนามทีมชาติออสเตรเลียประเทศที่ตัวเองเกิด และใช้ชีวิตในวัยเด็ก เนื่องจากต้องการไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2028
โดยคุณพ่อของ เออร์วิง เคยเล่นให้กับ บุลลีน บุลเล็ตส์ ในลีกบาสเกตบอลเซาธ์อีสต์ออสเตรเลีย ซึ่งทำให้เจ้าตัวได้เกิดที่เมลเบิร์นในปี 1992 ก่อนที่ครอบครัวจะย้ายกลับสหรัฐอเมริกาตอนเออร์วิ่งอายุ 2 ขวบ
ก่อนที่การ์ดรายนี้จะเดินตามรอยคุณพ่อด้วยการเป็นนักบาสอาชีพก่อนถูกดราฟต์เข้าสู่เอ็นบีเอเป็นลำดับแรกในปี 2011 และเคยเล่นให้ทีมชาติสหรัฐในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล
อย่างไรก็ตามช่วงหลังเขาขาตกเป็นตัวสำรองด้วยปัญหาทั้งฟอร์มการเล่น และดราม่าส่วนตัว ก่อนจะหลุดโผทีมชาติในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชุดคว้าเหรียญทองมาครอง
ส่งผลให้ เออร์วิง จึงมองหาโอกาสที่จะได้ลงเล่นในระดับนานาชาติอีกครั้งด้วยการเล่นให้แผ่นดินเกิดอย่างออสเตรเลีย
สำหรับกฎของสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (ฟีบ้า) ระบุว่า หากนักกีฬาคนใดเคยเล่นในทีมชุดใหญ่ในนามตัวแทนประเทศหนึ่งแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนไปเล่นให้ชาติอื่นได้ ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากเลขาธิการสหพันธ์
“การจะได้รับการยกเว้นให้สามารถย้ายทีมชาติได้นั้นต้องเป็นกรณีพิเศษจริงๆ เท่านั้น รวมถึงต้องเป็นประโยชน์ต่อกีฬาบาสเกตบอล โดยต้องพิจารณาว่า หากย้ายทีมแล้ว จะส่งผลให้ทีมชาติก่อนหน้านั้นของนักกีฬาคนดังกล่าวเสียเปรียบหรือไม่” อันเดรียส แซกคลิส เลขาธิการ ฟีบ้า ระบุ
ขณะที่ผู้เล่นวัย 32 ปีกล่าวถึงเรื่องการเปลี่ยนสัญชาติว่า “ถ้าวันใดวันหนึ่งในอนาคต ผมสามารถเล่นให้ออสเตรเลียได้ก็คงจะยอดเยี่ยมมากๆ แต่กว่าจะถึงวันนั้น คงต้องดำเนินการด้านเอกสารหลายอย่าง รวมถึงต้องให้สหพันธ์บาสเกตบอลสหรัฐอนุญาตด้วย”
ทั้งนี้การที่ เออร์วิง จะได้รับอนุญาตให้โอนสัญชาติหรือไม่นั้นต้องอยู่ที่ว่า ทีมชาติสหรัฐจะเปิดไฟเขียวให้หรือเปล่า ขณะเดียวกันก็ต้องรอดูว่าทางสหพันธ์บาสเกตบอลออสเตรเลียจะต้อนรับเขาสู่ทีมชาติหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันเน้นใช้ผู้เล่นอายุน้อย และในโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิสในอีก 3 ปีข้างหน้า เออร์วิง ก็จะมีอายุปาเข้าไป 36 ปี