เอเดอร์สัน ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2022/23 นี้ โดยเฉพาะกับแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสร
เอเดอร์สัน ซานตานา เดอ โมราเอส เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1993 ที่เมืองโอสาสโก ประเทศบราซิล เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน สิ่งเดียวที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากชีวิตที่แร้นแค้นนี้ก็คือฟุตบอล ดังนั้น เอเดอร์สัน จึงเลือกที่จะมุ่งมั่นเพื่อทำให้ครอบครัวของเขาสุขสบาย
เอเดอร์สัน เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในสโมสรเยาวชนที่แรกคือ เซาเปาโล ในปี 2008-2009 เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเขาสร้างความฮือฮาด้วยการเป็นผู้รักษาประตูที่ยิงประตูจากในกรอบตัวเอง ขณะที่ส่วนตัวเขาเป็นนายด่านที่มีปฏิกริยาที่ว่องไว มีเซนส์ที่ดี ทั้งยังเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดีด้วย และด้วยความสามารถที่รอบด้านนี้ทำให้เขาถูก แมวมองของ เบนฟิก้า ดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2009
หลังจากนั้นผ่านมา 2 ปี เอเดอร์สัน กลับมายังบราซิลอีกครั้ง โดยเขาได้ลงเล่นให้กับ ริไบเรา ในฤดูกาล 2011-2012 ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ ริโอ อาฟ และกลับมาเล่นกับ เบนฟิก้า ในปี 2015
ช่วงที่ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า เอเดอร์สัน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาร่วมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส 5 สมัย และฟุตบอลถ้วยโปรตุเกสอีก 2 รายการ
กระทั่งปี 2017 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่กำลังมองหาผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดี ก็ทุ่มเงิน 35 ล้านปอนด์ ดึงเขามาไล่ล่าความสำเร็จด้วยกัน
เอเดอร์สัน คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คาราบาวคัพ 4 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และล่าสุดกับแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกระดับ ทุกถ้วยกับสโมสร
ขณะที่ทีมชาติบราซิล เขาติดทีมชุดใหญ่ในปี 2017 พร้อมกับร่วมคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2019 กับทีมด้วย แม้จะเป็นตัวสำรองของ อลิซง เบ๊กเกอร์ นายด่านตัวจริงจากลิเวอร์พูล ก็ตาม
แน่นอนว่า เอเดอร์สัน จะยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป มาดูกันว่าในอนาคตเขาจะกวาดความสำเร็จให้สโมสร และตัวเองเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน