เอเลนา ริบาคินา นักเทนนิสหญิงจากคาซัคสถาน เผยเป้าหมายในอนาคตว่า อยากจะขึ้นไปครองตำแหน่งมือ 1 โลก และคว้าถ้วยแชมป์ในระดับแกรนด์สแลมให้มากขึ้น
สำหรับ ริบาคินา ซึ่งปัจจุบันครองตำแหน่งมือ 4 ของโลก และเคยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครองได้แล้ว 1 รายการนั่นก็คือ วิมเบิลดัน 2022 เกือบสร้างสถิติซิวแชมป์ระดับเมเจอร์ดังกล่าวได้อีก 1 รายการในปี 2023 นั่นก็คือ ออสเตรเลียน โอเพ่น หลังผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ตามเธอกลับพ่ายต่อ อารีนา ซาบาเลนกา มือ 2 โลกจากเบลารุส 1-2 เซ็ต 6-4, 3-6 และ4-6
ถึงกระนั้นฤดูกาล 2023 ก็ถือว่าเป็นปีทองของ ริบาคินา หลังเจ้าตัวสามารถกวาดแชมป์มาครองได้ 2 รายการซึ่งเป็นระดับมาสเตอร์ส 1,000 ทั้งคู่ นั่นก็คือ บีเอ็นพี พาริบาส โอเพ่น และอิตาเลียน โอเพ่น พร้อมได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ของโลกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของอาชีพเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดแร็กเกตวัย 24 ปีซึ่งจบซีซั่น 2023 ด้วยการครองอันดับ 4 ของโลกกล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองในอนาคตว่า ต้องการคว้ามือ 1 โลกมาครองให้ได้ พร้อมจะซิวแชมป์แกรนด์สแลมให้ได้มากขึ้น
“แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของฉันคือการเป็นมือ 1 ของโลกในสักวันหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกเสมอคือการทำผลงานให้ดีในแกรนด์สแลม ฉันคิดว่า เป้าหมายค่อนข้างจะเหมือนกัน ฉันอยากจะปรับปรุงสภาพร่างกายเพราะส่วนนี้มักจะทำให้ฉันอ่อนแอกว่าเสมอ แต่ในสนามยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมากจนเราไม่มีเวลา (ที่จะ) ทำตามสิ่งที่โค้ชของกำลังปรับปรุง และพยายามบอกฉัน”
ทั้งนี้ ริบาคินา ซึ่งปัจจุบันคว้าแชมป์ดับเบิลยูทีเอรวมไปแล้ว 5 รายการ และมีสถิติชนะ 68.9% จากการลงสนามทั้งหมด 418 แมตช์ ระบุว่า เธอเกือบจะไม่ได้เป็นนักเทนนิสอาชีพแล้วเนื่องจากคุณพ่อของเธออยากจะให้เข้าไปศึกษาต่อที่มหาวทิยาลัยมากกว่า แต่สุดท้ายเธอก็เลือกจะเทิร์นโปรในปี 2016 พร้อมโอนสัญชาติจากรัสเซียเป็นคาซัคสถานด้วย
“ตอนแรกพ่ออยากให้ฉันเลือกศึกษาต่อ แต่เขาก็เริ่มเห็นผลงานที่ดีขึ้น และเขารักเทนนิส ดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยกับที่ฉันการเลือกเล่นเทนนิส หลังจากนั้นก็มีสหพันธ์เทนนิสคาซัคสถานเข้ามาพร้อมกับข้อเสนอที่ทำให้การตัดสินใจทุกอย่างง่ายขึ้น ฉันตัดสินใจโอนสัญชาติเป็นคาซัคสถาน เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวฉัน และตอนที่พวกเขายื่นข้อเสนอมา ตัวฉันเองก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และพร้อมที่จะช่วยเหลือฉัน”