ประวัตินักกีฬา

เอแดร์ มิลิเตา จากเด็กที่แค่สนุกกับการเล่นว่าว สู่ปราการหลังสุดแกร่งระดับโลก

เอแดร์ มิลิเตา

 เอแดร์ มิลิเตา ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เนื่องจากครองความสำเร็จยึดตำแหน่งตัวจริงกับยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล มาอย่างต่อเนื่อง

 เอแดร์ กาเบรียล มิลิเตา เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1998 ในเมืองแซร์ตาโอซินโญ เซา เปาโล ประเทศบราซิล คุณพ่อของเขาคือ วัลโด มิลิเตา เคยค้าแข้งอยู่กับโครินเธียน และยังเคยร่วมเล่นกับ ริวัลโด อดีตตำนานทีมชาติบราซิลด้วย 

 ตอนเด็กๆนั้น เอแดร์ มิลิเตา ชอบเล่นว่าวเป็นชีวิตจิตใจ และสนุกไปกับการขี่จักรยานเล่นกับเพื่อน เขาไม่ได้ชื่นชอบฟุตบอลมาตั้งแต่แรก และไม่ได้ต้องการเดินตามรอยเส้นทางของพ่อ

 อย่างไรก็ตาม วัลโด มิลิเตา คุณพ่อของเขาวางแผนที่จะให้ลูกชายเล่นฟุตบอลไว้ตั้งแต่แรก จึงพูดคุยกับเขาและเริ่มจัดการฝึกสอนแบบตัวต่อตัวกับ เอแดร์ และเมื่อวันเวลาผ่านไปแทนที่จะต่อต้าน เขากลับชอบมันและตัดสินใจจริงจังกับฟุตบอล

เอแดร์ มิลิเตา

 เอแดร์ มิลิเตา เริ่มเข้าไปอยู่ในอคาเดมีของทีมท้องถิ่นอย่าง แซร์ตาโอซินโญ ตอนนั้นเขาลงเล่นในฐานะกองหน้า และคว้ารางวัลรองเท้าทองคำในทัวร์นาเมนต์ระดับท้องถิ่นมาครองด้วย 

 เมื่ออายุได้ 12 ปี อักเนลโล ซูซ่า เพื่อนของคุณพ่อก็ได้แนะนำให้พา เอแดร์ เข้าสู่โครงการฟุตบอล Camisa 10 ที่รวมเอาเด็กมากกว่า 300 คน มาฝึกฝนฟุตบอล และที่แห่งนี้ มิลิเตา ก็กลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นกว่าใครๆ เขาเป็นที่รู้จักในนามแข้งเยาวชนที่ยิงประตูได้หนักหน่วง จนได้ลงเล่นกับเด็กที่อายุมากกว่าเขา 2 ปี

 จนอายุ 14 ปี คุณพ่อซึ่งเห็นว่าเขาควรได้ก้าวไปสู่อคาเดมีที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ จึงพา มิลิเตา ไปทดสอบฝีเท้ากับ เซาเปาโล ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบครั้งที่ 3 

 กับสโมสรเซาเปาโล เหมือนเป็นจุดเปลี่ยน และเปิดโลกในการเล่นฟุตบอลของมิลิเตา ก็ว่าได้ เมื่อโค้ชได้ค้นพบว่าจริงๆแล้ว มิลิเตา สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้ง มิดฟิลด์ตัวรุก กองกลางตัวรับ รวมถึงตำแหน่งในเกมรับอื่นๆ เขาถูกหมุนเวียนให้เล่นตำแหน่งเหล่านี้เป็นเวลานาน จนบางครั้งเขาก็รู้สึกสับสน และสงสัยว่ากำลังโดนทำโทษหรือไม่ 

 กระทั่งในปี 2015 เอแดร์ มิลิเตา ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ ทำให้ครอบครัวภูมิใจอย่างมาก และในที่สุดหลังจากกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติ ก็มีการตกลงตำแหน่งขั้นสุดท้ายสำหรับเอแดร์ ซึ่งโค้ชของเขาที่เซา เปาโล (โดริวัล จูเนียร์) พบว่าเขาเหมาะกับกองหลังมากกว่า ซึ่งพ่อของเขาก็เห็นด้วยตามนั้น

ด้วยเหตุนี้ เอแดร์ จึงตกลงที่จะลงเล่นในฐานะกองหลังเรื่อยมา และถูกดันขึ้นมาเล่นกับ เซาเปาโล ชุดใหญ่ในปี 2017 และเพียงปีเดียว หลังจากลงเล่นไป 49 นัด ยิงไป 5 ประตู ในที่สุด เอแดร์ มิลิเตา ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เอฟซี ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่ในโปรตุเกส 

 เพียงปีแรกเขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของทีม ลงป้องกันหลังบ้านให้กับ ปอร์โต้ ได้อย่างแข็งแกร่ง กระทั่งปี 2019 ทีมชาติบราซิล ก็เรียกเขาติดทีมชุดใหญ่ไปลุยศึก โคปา อเมริกา และกลายเป็นแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ อย่างยิ่งใหญ่ 

 ฟอร์มของ มิลิเตา เข้าตายักษ์ใหญ่หลายทีม สุดท้ายเป็น เรอัล มาดริด ที่ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านยูโร ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2019 ก่อนที่เวลาต่อมาเขาจะประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งการคว้าแชมป์ ลาลีก้า 2 สมัย, ซูเปอร์โคปา 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ ค้พ 1 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย 

 จากนี้ มิลิเตา น่าจะยังคงเป็นกำลังหลักสำคัญของ เรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล ไปอีกยาวๆ แน่นอนว่าเขายังมีเวลาอีกเหลือเฟือในการเพิ่มความสำเร็จร่วมกับทีมต่อไป

Most Popular

To Top