“แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง สอยคิวยอดฝีมือของไทย เตรียมลุยศึกสนุกเกอร์อาชีพ รายการแรกของตัวเอง ในศึก อิงลิช โอเพ่น 29 ตุลาคมนี้ ดวล อเล็กซานเดอร์ เออร์เซนบาเชอร์ นักสนุกเกอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ โดย แจ๊ค เปิดเผยว่า ได้ตั๋วเล่นอาชีพโลก มาแล้ว
ต้องไปบรรเลงเพลงคิวให้ได้ ถึงแม้จะมีผู้ให้การสนับสนุนแค่เพียง มูลนิธิกีฬาพัฒนาอาชีพ ขออยู่สู้ 2 เดือน ใช้งบฯ 3 แสน พร้อมทำเต็มที่ ถ้าผลงานดีมีรายได้ จะสามารถต่อชีวิตการเล่นสนุ้กที่อังกฤษได้ต่อไปอีก
“แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนคว้าสิทธิ์ได้ไปเล่นสนุกเกอร์โลก จากรายการคัด คิวสคูล โซนเอเชีย โอเชียเนีย ซึ่งสามารถเป็นโปรได้ 2 ฤดูกาล คือ 2022-23 และ2023-24
โดยตั้งแต่วันนั้นตนพยายามหาสปอนเซอร์ มาตลอด รวมทั้งขอวีซ่าทำงานในประเทศอังกฤษ แต่การขอให้มีผู้สนับสนุนมันเป็นเรื่องยากมาก ตอนนี้ตนมีเพียง มูลนิธิกีฬาพัฒนาอาชีพแค่นั้น นอกนั้นยังหาไม่ได้ และยังคงมุ่งมั่นที่จะหาต่อไป ซึ่งมาถึงวันนี้ตนได้วีซ่าแล้ว พร้อมที่จะเดินทางไปแข่งขันแล้ว
“ผมจะเดินทางไปร่วมการแข่งขันรายการแรกของตัวเอง คือ อิงลิช โอเพ่น ซึ่งจะมีคิวลงแข่งขันในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ พบกับ อเล็กซานเดอร์ เออร์เซนบาเชอร์ นักสนุกเกอร์จากสวิสเซอร์แลนด์ โดยผมจะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ในคืนวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งไปครั้งนี้ผมจะอยู่ประมาณ 2 เดือน
โดยจะไปอยู่ค่าย Victoria (วิคตอเรีย) ซึ่งมี มิ้งค์ สระบุรี, จ้าว ซินถง และเด็กจีนอีกหลายคน โดยการไปเล่นอาชีพในช่วงเวลาสั้นๆ จะใช้เงินประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งผมจะขอสู้สักตั้ง จะทำให้เต็มที่ และขอให้แฟนกีฬาสนุกเกอร์ชาวไทยเชียร์ ระยะเวลาสั้นๆถ้าผลงานดีมีรายได้อาจต่อชีวิตผมให้ได้ต่อยอดไปจนจบฤดูกาล” แจ๊ค กล่าว
สำหรับผลงานที่โดดเด่นของแจ๊ค สระบุรี เริ่มคว้าตั๋วไปแข่งขันอาชีพโลก จากการคว้าแชมป์สมัครเล่นโลก ในปี 2553 ที่ประเทศซีเรีย จากนั้นได้เล่นอาชีพตั้งแต่ปี 2554 ทำผลงานดีที่สุดคืออันดับ 37 ของโลก แต่สิ่งที่แฟนสนุกเกอร์ชาวไทย และทั่วโลกจดจำในความเป็นอารมรณ์ขัน จากรายการ ชิงแชมป์โลก “เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ (World Championship)
สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 32 คนสุดท้าย เขาเจอกับ สตีเฟ่น แมไกวร์ ที่สามารถเฉือนชนะ 10-9 เฟรม ซึ่งในวันนั้นได้ทำให้ผู้ชมได้มีรอยยิ้ม และเสียงฮา ขณะที่เขาเดินไปผิดโต๊ะในช่วงเริ่มต้นของการแข่งขันกับความคึกคะนอง และแสดงอารมณ์ตลอดเวลาจนได้รับเสียงปรบมืออย่างมาก และการผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย ทำให้เขาคือนักสนุ้กไทยคนที่ 2 ต่อจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่ผ่านเข้าสู่รอบนี้